Posted: 23 Mar 2018 03:47 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

องค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.เฉพาะ จับมือ หวังขับเคลื่อนประเทศไทยตามแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประสานพลังสร้างการจัดการองค์กรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”

23 มี.ค.2561 รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) จัดให้มี การประชุมวิชาการที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ “New Public Management: Thailand 4.0” การจัดการภาครัฐแนวใหม่ : ไทยแลนด์ 4.0 โดยมี ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เป็นประธานเปิดงานและแสดงปาฐกถา เรื่อง “องค์กร พ.ร.บ.เฉพาะยุค Thailand 4.0 : New Public Management สู่องค์สมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล” โดยมีผู้บริหาร บุคลากรจาก 16 องค์กรสมาชิกร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะประธานที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) กล่าวว่า การรวมตัวกันของ ทอพ. มีเจตนารมณ์เดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยตามแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประสานพลังสร้างการจัดการองค์กรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” เพื่อมุ่งสู่ Thailand 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีเป้าหมายให้ประเทศก้าวออกจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง กับดักความเหลื่อมล้ำ สู่ประเทศที่มีรายได้สูง โดยใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านความมั่นคง เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรมีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย

ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ทอพ. ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาองค์กร ทอพ. ไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนี้ 1.ประสานพลังและบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยเพิ่มบทบาทการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาล การดำเนินงานตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ชุมชนและสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 2.เร่งพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ประสานทรัพยากรร่วมกัน สร้างนวัตกรรมแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหา และ 3.จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่กำกับองค์กรภาครัฐ เพื่อพัฒนา 16 องค์กรเฉพาะให้สามารถดำเนินการตามพันธกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเป็นอิสระและคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญ ช่วยการขับเคลื่อนพันธกิจของรัฐบาลให้สำเร็จ โดยทบทวนข้อกำหนด ข้อบังคับที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยมุ่งยึดแนวทางการบริหารจัดการองค์กร และกลไกการกำกับตามที่ได้ออกแบบและระบุไว้ในพระราชบัญญัติเฉพาะของแต่ละองค์กรเป็นหลัก

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การประชุมวิชาการผู้บริหาร ทอพ. ครั้งที่ 5 ในครั้งนี้ ซึ่งดำเนินภายใต้หัวข้อNew Public Management : Thailand 4.0 ซึ่ง Thailand 4.0 เป็นโมเดลขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ สาธารณสุข การศึกษา ความมั่นคง เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการดำเนินงานทั้ง 16 องค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.เฉพาะ และจากเป้าหมาย Thailand 4.0 ทำให้หน่วยงานรัฐจำเป็นต้องมีการปรับตัวเป็นหัวขบวนในการขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลง ให้มีขีดสมรรถนะสูง ทันสมัย และทำงานโดยการยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้สามารถเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง

“การประชุมวิชาการผู้บริหารองค์กรของรัฐตาม พรบ.เฉพาะ ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐภายใต้กลไกบริหารจัดการในรูปแบบใหม่ จากความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นอกจากเป็นการเปิดวิสัยทัศน์และมุมมองการทำงานที่นำไปสู่การพัฒนาการดำเนินงานของแต่ละองค์กรให้มีสมรรถนะและธรรมาภิบาลสูงแล้ว ยังนำไปสู่การขับเคลื่อนการบริหารจัดการแนวใหม่ของทั้ง 16 องค์กร เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทั้งนี้ ทอพ. มีสมาชิกเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ จำนวน 16 หน่วยงานที่มีพันธกิจแตกต่างกันใน 4 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านกองทุนสนับสนุน ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา สถาบันอนุญาโตตุลาการ และสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์


[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.