Posted: 26 Mar 2018 06:15 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

สหภาพแรงงาน เจอเนอรัลมอเตอร์ฯ เดินรณรงค์เพื่อไปเข้าร่วมชี้แจงคณะทำงานว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ พร้อมยื่น 5 ข้อเรียกร้องให้ช่วยแก้ปัญหาสภาพการจ้างงาน


ภาพการเดินรณรงค์ของกลุ่มดังกล่าว

26 มี.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา ตัวแทน สหภาพแรงงาน เจอเนอรัลมอเตอร์ ประเทศไทย (จังหวัดระยอง) และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบมาอย่างยาวนานจากปัญหาการจ้างงาน เดินเท้าถึงสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน แล้ว หลังจาก เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มนี้เริ่มเดินจาก หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทเจอเนอรัล มอเตอร์ เพาเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ อาคาร รสาทาวเวอร์ 2 ถนน พหลโยธิน เพื่อไปเข้าร่วมชี้แจงในเวทีการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ของคณะทำงานว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Working Group on Business and Human Rights)

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อถึงที่หมาย กลุ่มตัวแทนดังกล่าว ได้แถลงต่อ คณะทำงานว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เพื่อดําเนินการช่วยเหลือให้ สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ได้รับความเป็นธรรมและให้นายจ้างเคารพกฎหมายและยุติพฤติกรรมที่เป็นการละเมิด กฎหมายแรงงาน และหลักจรรยาบรรณแรงงานสากล เพื่อไม่ให้พนักงานได้รับความเดือดร้อนและเป็นการส่งเสริม แรงงานสัมพันธ์อันดีในระบบทวิภาคีที่ยั่งยืนตลอดไป จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดําเนินการ

โดยมี 5 ข้อเรียกร้อง ต่อบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์สเพาเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จํากัด ดังนี้ 1. ให้บริษัทฯ ทั้งสองรับลูกจ้างกลับเข้าทํางานในสถานที่ทํางานเดิม และตําแหน่งหน้าที่และสภาพการจ้าง เดิมทุกประการ 2. ห้ามมิให้บริษัทฯ ทั้งสอง ขัดขวางการดําเนินงานหรือดําเนินกิจกรรมของสหภาพแรงงาน ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม

3. ห้ามมิให้บริษัทฯ ทั้งสอง ขัดขวางการดําเนินการโดยการกลั่นแกล้งการลงโทษหรือเลิกจ้างลูกจ้างที่เป็นกรรมการและสมาชิกของสหภาพแรงงานฯ ด้วยเหตุผลอันไม่เป็นธรรมอีกต่อไป 4. ให้บริษัทฯ ทั้งสองปฏิบัติตามคําสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ โดยเคร่งครัด 5. ขอให้คณะทํางานว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ลงตรวจเยี่ยมสถานประกอบการของบริษัททั้งสองพร้อมทั้งให้ผู้แทนของสหภาพแรงงานฯ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

'เชฟโรเลต' แจงเปลี่ยนสถานที่ให้คนงานรายงานตัว จาก 'ค่ายทหาร' เป็น 'สนามกอล์ฟ'
เชฟโรเล็ต นัดคนงานเซ็นสัญญาจ้างใหม่ในค่ายทหาร คนงานหวั่นถูกบีบให้ลาออก
สหภาพแรงงาน GM ระยอง เตรียมร้องคณะทำงานว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน UN
วานนี้ บุญยืน สุขใหม่ ผู้ประสานงานกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก และกรรมการบริหารสมัชชาคนจนฝ่ายกฎหมายแรงงาน ระบุว่าหลังจากเหตุการณ์การนัดหยุดงานของสหาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย และการปิดงานเฉพาะสมาชิกสหภาพแรงงานของบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2556 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี ที่สมาชิกสหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์สกว่า 100 ชีวิตยังคงไม่ได้กลับเข้าทำงาน ถึงแม้สหภาพแรงงานฯ จะได้ยอมถอนข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นต่อบริษัทฯ ไปแล้ว แต่สมาชิกสหภาพแรงงานฯ กลุ่มนี้ยังไม่สามารถกลับเข้าทำงานได้เนื่องจากติดปัญหาจากการปิดงานเป็นรายบุคคลของบริษัทฯ ที่ยื่นข้อเรียกร้องต่อลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน โดยที่กลไกกฎหมายของทางราชการไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงช่วยเหลือพี่น้องแรงงานกลุ่มนี้ได้เลย

ผู้ประสานงานกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก อธิบายที่มาของการเคลื่อนไหวนี้ว่า สมาชิกสหภาพแรงงานได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ กระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ รับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน และจ่ายค่าเสียหายนับแต่วันที่ 8 พ.ย. 2560 จนถึงวันรับกลับเข้าทำงาน แต่จนปัจจุบันก็มีพนักงานบางคนที่บริษัทฯ ยังจ่ายไห้ไม่ครบถ้วน หลังจากนั้นบริษัทฯ ได้มีคำสั่งให้พนักงานเข้าไปรายงานตัวเพื่อกลับเข้าทำงาน เมื่อพนักงานไปรายงานตัว บริษัทฯ ได้มีคำสั่งให้พนักงานทั้งหมดไปปฏิบัติงานที่ ที่คลังสินค้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งไกลมากจากที่พักและครอบครัวของแรงงานโซนพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี นอกจากนี้ยังปรับลดเงินเดือนพนักงานทุกคนจากเดิม เหลือเพียงค่าแรงขั้นต่ำสุดเพียง 9,600 บาท/เดือน และสวัสดิการอื่นที่เคยได้รับถูกตัดทั้งหมด เช่น ไม่มีรถส่ง ไม่มีเบี้ยต่างจังหวัด ไม่จ่ายปรับค่าจ้าง 3 ปี ไม่จ่ายโบนัสผันแปร 3 ปี และไม่มีอาหารกลางวันให้ ซึ่งทำให้พนักงานกว่า 60 คน ไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้ เนื่องจากการบริษัทได้วางมาตรการเงื่อนไขบีบบังคับ พนักงานจึงต้องยอมรับเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมของนายทุน ตามที่บริษัทเสนอ จึงเหลือพนักงานที่สามารถเดินทางมาทำงานที่คลังสินค้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพียง 9 คน และลักษณะงานที่ทำก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงคือจากพนักงานประกอบรถยนต์ ต้องถูกปรับลดลงมาเป็นแรงงานไร้ฝีมือ ทำหน้าที่ขูดสีและทาสีเส้นในคลังสินค้า


[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.