ประชาธิปัตย์ถาม โทษประหารใน พ.ร.บ.พรรคฯ ทำไมไม่ครอบคลุมนายกฯ คนนอก-รมต.ไร้สังกัด
Posted: 21 Dec 2016 05:09 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
นักการเมืองสะท้อนความคิดเห็ นหลัง กรธ. ปรับแก้ไข พ.ร.บ.พรรคการเมือง ชาติไทยพัฒนาเห็นด้วยและขอบคุณ เพื่อไทยซัด โทษประหาร กรณีซื้อขายตำแหน่ง ง่ายต่อการป่ายสี ประชาธิปัตย์ถาม ทำไมโทษประหารไม่ครอบคลุมนายกฯ คนนอก-รมต.ไร้พรรค
จากกรณีที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่าถึงความคืบหน้ าของการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้ วยพรรคการเมือง (พ.ร.บ.พรรคการเมือง) ว่าได้มีการปรับเรื่องการจ่ ายเงินทุนประเดิมพรรคจากเดิมที่ ผู้ก่อตั้งพรรคที่รวมตัวกันอย่ างน้อย 500 คน จะต้องจ่ายเงินทุนประเดิ มพรรคการเมืองอย่างน้อยคนละ 2,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาทต่อหนึ่งคน โดยเมื่อรวมกันแล้วจะต้องมีเงิ นทุนประเดิมพรรคการเมืองไม่น้ อยกว่า 1 ล้านบาท พร้อมทั้งปรับลดเงื่ อนไขจำนวนสมาชิกพรรค ซึ่งต้องจ่ายเงินบำรุงพรรคเป็ นรายปี จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าภายใน 4 ปี พรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องมี สมาชิกไม่น้อยกว่า 20,000 คน เป็นไม่น้อยกว่า 10,000 คน
สำหรับอีกประเด็นที่มีการพูดถึ งในวงกว้างคือ เรื่องการกำหนดโทษประหารชีวิต หากเกิดกรณีชื้อขายตำแหน่งรั ฐมนตรี ทางด้าน กรธ. ยังคงยืนยันหลักการเดิม เนื่องจากเห็นว่ าสมเหมาะในบางกรณีที่ทำให้เกิ ดความเสียหายต่อประเทศ
นิกร พรรคชาติไทยพัฒนา เห็นด้วย กรธ. ลดเงือนไขตั้งพรรคการเมือง + ยืนยันโทษประหารชีวิต
แฟ้มภาพ: iLaw
ล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค. 2559) นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรู ปประเทศ (สปท.) ได้กล่าวถึงกรณีที่ กรธ. ปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองว่า ต้องขอบคุณ กรธ. ที่รับฟังเสียงท้วงติงต่างๆ ถือเป็นท่าทีที่ดี เท่ากับถอยให้พรรคการเมืองนิ ดหน่อย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเงินทุนประเดิมพรรคการเมื องที่มีการปรับลดขั้นต่ำ ของการจ่ายลง
เรื่องการปรับลดเกณฑ์การหาสมาชิ ก 4 ปีจาก 20,000 คน ให้เหลือ 10,000 คน เรื่องการขยายกรอบเวลาที่ พรรคการเมืองต้องดำเนินก่ อนการเลือกตั้งจาก 150 วันเป็น 180 วัน รวมทั้ง การปรับบทลงโทษหากพรรคไม่ดำเนิ นการใน 4 กิจกรรมตามมาตรา 23 ส่วนการคงโทษประหารไว้ในกรณีซื้ อขายตำแหน่งนั้น คิดว่าไม่ปรับไม่เป็นไร กรธ. คงอยากแสดงให้เห็นว่าวางยาแรงที่ สุดไว้ แต่จะใช้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ศาลต้องใช้ดุลยพิ นิจ
นิกร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อกฏหมายพรรคการเมืองบังคั บใช้ จะต้องบวกระยะเวลาไปอีก 180 วันที่พรรคการเมืองต้องกลั บไปปรับปรุงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่ อไร จึงอาจจะเกิดปัญหาใหม่ โดยเฉพาะเรื่องเวลารออยู่ จึงอยากให้ กรธ. ขยับระยะเวลาในการร่าง กฏหมายลูกอีก 2 ฉบับที่เหลือให้เร็วขึ้นเพื่ อให้ทันกับระยะเวลาตามโรดแมปเลื อกตั้งเดิมที่วางไว้
เพื่อไทย ไม่เห็นด้วยบังคับจ่ายเงินบำรุ งพรรค พร้อมซัดกรณีโทษประหาร ขัดหลักนิติธรรม
ด้าน สามารถ แก้วมีชัย ในฐานะคณะทำงานติดตามการร่างรั ฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่กรธ. ยอมปรับร่างกฏหมายลูกว่าด้ วยพรรคการเมืองโดยการยกเลิ กโทษยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรค ตลอดจนถึงยอมลดการจ่ายเงินทุ นประเดิมพรรคว่า ก็ดีใจ และถือว่า กรธ. ยังรับฟังความเห็นและเสียงสะท้ อนจากพรรคการเมือง แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกหลายประเด็ นที่ควรจะปรับเปลี่ยนแก้ไข เช่น เรื่องค่าบำรุงพรรคของสมาชิก ถ้าไปตั้งหลักว่าใครเป็นสมาชิ กต้องจ่ายค่าบำรุงแบบนี้ไม่น่ าจะใช่ เพราะบางคนไม่จ่ายเงินแต่ ออกแรงกาย และกำลังสมองช่วยงานในพรรค ตรงนี้ไม่สามารถวัดเป็นมูลค่ าได้และถือว่ามีค่ามากกว่าค่ าบำรุงพรรคเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ควรบังคับให้ต้องมี การจ่ายค่าบำรุงเว้นแต่ว่ าใครสะดวกและสมัครใจที่จะบริ จาคก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ งเพราะจะทำให้เป็นปัญหา และหากบังคับให้ต้องเรียกเก็บซึ่ งหากใครไม่จ่ายจะต้องพ้ นสภาพสมาชิกพรรค ตรงนี้จะกลายเป็นการบั่ นทอนความเข้มแข็งของพรรคการเมื องแทนที่จะเป็นการเสริมสร้ างความเข้มแข็ง
ด้านคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร.ปี 40 ในฐานะประธานคณะทำงานติ ดตามการร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่า กรณีที่ กรธ.ยังยืนยันที่ จะคงโทษประหารชีวิต ในความผิดฐานซื้อขายตำแหน่ งทางการเมือง และตำแหน่งราชการว่า อาจเป็นเพราะคงไม่มี กรธ.คนไหน คิดจะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตั้งพรรคการเมือง เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. เพราะนำกฎหมายนี้ไปใช้บังคับกั บบุคคลอื่นที่ทำการซื้ อขายตำแหน่งเช่นเดียวกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ว. ปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี รัฐมนตรี หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. จึงเป็นการตรากฎหมายขึ้นเพื่ อใช้บังคับแก่คดีใดคดีหนึ่ง กรณีใดกรณีหนึ่ง หรือแค่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถือว่าขัดหลักนิติธรรมอย่างร้ ายแรง
คณิน กล่าวว่า โทษฐานซื้อขายตำแหน่งเป็นข้ อหาที่ครอบจักรวาล และค่อนข้างเป็นนามธรรมซึ่งจั บต้องได้ยาก ดังนั้นจึงง่ายแก่การกล่าวหา และสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่ อกลั่นแกล้งทำลาย หรือใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้ ามทางการเมือง หรือดิสเครดิตคู่แข่ง ขึ้นอยู่กับผู้บังคับใช้ กฎหมายและผู้ตัดสินคดีความซึ่ งถึงแม้จะวินิจฉัยอย่างเที่ ยงธรรมปราศจากอคติ ก็ยากที่จะอำนวยความยุติธรรมได้ เต็มร้อย เพราะทุกอย่างจะขึ้นอยู่กั บการใช้ดุลพินิจอย่างเดียว ที่ร้ายกว่านั้น จะมีหลักประกันอะไรหรือไม่ ที่จะบอกว่าผู้ใช้บังคั บกฎหมายและผู้ตัดสิน จะไม่ใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ นอกจากนี้ เป็นการไม่ให้เกียรติ ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้ง ไม่ให้เกียรติประชาชนที่ ไปลงคะแนนเลือกตั้ง และที่สำคัญไม่ให้เกียรติบทบั ญญัติของรัฐธรรมนูญ เป็นการรอนสิทธิ หรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้ เพราะเหตุเพียงแค่ว่าเป็นสมาชิ กพรรคการเมืองเท่านั้น
คณิน กล่าวว่า การตรากฎหมายเช่นนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 26 คือ นอกจากจะขัดต่อหลักนิติธรรมแล้ว ยังเป็นการจำกัดเสรีภาพของบุ คคลเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับ และประชาชนรับรู้ถึงสาระสำคั ญและบทกำหนดโทษที่รุนแรงเกินกว่ าเหตุแล้ว คงไม่มีใครอยากเป็นสมาชิ กพรรคการเมืองแน่ ดังนั้น การที่ กรธ.ระบุไว้ในมาตรา 32 ว่าภายในหนึ่งปี พรรคการเมืองต้องมีสมาชิกไม่น้ อยกว่าห้าพันคน สาขาพรรคแต่ละสาขาต้องมีสมาชิ กในพื้นที่ไม่น้อยกว่าห้าร้อยคน และต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่ าสองหมื่นคนภายในสี่ปี จึงอยากจะถาม กรธ.ว่า ฝันไปหรือเปล่า
ประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตโทษประหารทำไมไม่ ครอบคลุมนายกฯคนนอก-รมต.ไร้พรรค พร้อมแนะ กรธ.หามาตรการจัดการผู้แทนนอมิ นี
สำหรับ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการปรับแก้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองครั้งล่าสุ ดว่า เรื่องทุนประเดิมพรรคการเมือง 1 ล้านบาทไม่มีปัญหา แต่ควรที่จะป้องกันนายทุนเข้ ามาครอบงำพรรคการเมือง เพราะการเข้ามาครอบงำพรรคการเมื องของนายทุนไม่ได้มีการแสดงตั วตนอย่างเปิดเผย อาจจะส่งลูก หลานมาเป็นนอมินีแทน หรือเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี กรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น จึงขอให้ กรธ.คำนึงถึงประเด็นเหล่านี้ด้ วย ว่าควรจะมีการตรวจสอบ ซึ่งความจริงเวลาเลือกตั้ งพรรคการเมืองต้องใช้เงิ นจำนวนมาก และต้องยอมรับความจริงว่านายทุ นต้องเข้ามาสนับสนุน การที่บอกว่าพรรคการเมืองมีทุ นประเดิม 1 ล้าน ผมเชื่อว่าไม่เพียงพอที่จะใช้ ในการเลือกตั้ง หากพิจารณาโดยรวมแล้วการปรับแก้ ดังกล่าวยังไม่ตรงประเด็น เพราะประเด็นใหญ่ๆเชื่อว่า กรธ. ไม่มีการปรับแก้แน่นอน
ด้าน องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเด็นการปรับแก้ไขอย่างกรณีที่ ลดโทษให้เป็นตัดเงินสนับสนุ นพรรคนั้น เรื่องนี้ปรับไปก็ไม่ได้มี ผลอะไร เพราะที่ผ่านมาพรรคการเมือง ก็ทำตามอยู่แล้ว หรือการลดเงินขั้นต่ำในการจ่ ายค่าประเดิมตั้งพรรคเป็นไม่ต่ำ กว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาท แต่ต้องรวบรวมให้ได้ 1 ล้านบาทเหมือนเดิม รวมถึงลดจำนวนการให้สรรหาสมาชิ กให้ได้ 10,000 ภายใน 4 ปีนั้นก็เป็นการลดค่าใช้จ่ ายลงส่วนหนึ่ง และทำให้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ พรรคการเมืองขนาดเล็กให้มีมากขึ้ น แต่ในส่วนมาตรา 44 ของ ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ทาง กรธ.ระบุไม่ได้เปลี่ ยนแปลงอะไรนั้น ที่ผ่านมาไม่ได้ทักท้วงเรื่องที่ มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต หรือบังคับใช้กับนักการเมือง แต่ตนเห็นถ้าผู้ดำรงตำแหน่ งทางการเมือง อย่างนายกรัฐมนตรีคนนอก หรือรัฐมนตรีที่ไม่สังกั ดพรรคการเมือง ที่อาจทำความผิดแบบเดียวกันได้ ซึ่งตนสงสัยว่าทำไมโทษเหล่านี้ ถึงเอาผิดแค่คนที่อยู่ ในพรรคการเมืองเท่านั้น แต่ทำไมกฎหมายนี้ถึงไม่ครอบคลุ มคนกลุ่มอื่นด้วย
แสดงความคิดเห็น