U.S. President Donald Trump talks with British Prime Minister Theresa May in Taormina, Italy.

กระแสต่อต้านทรัมป์ในยุโรปรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีส

เมื่อเดือนมกราคม นายกรัฐมนตรีเธเรซ่า เมย์ ของอังกฤษ เป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดือนทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สื่อของทั้งสองประเทศทำข่าวการเยือนครั้งนั้นอย่างใกล้ชิด และมุ่งประเด็นไปที่บรรยากาศที่อบอุ่นระหว่างผู้นำทั้งสอง

แต่ความเป็นมิตรกันที่เห็นได้ชัดดูเหมือนว่าจะกลับมาบั่นทอนคะแนนเสียงของเธอ ในการเลือกตั้งของอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือจากที่นายกรัฐมนตรีเมย์คิดว่าการเลือกตั้งนี้จะช่วยให้พรรคอนุรักษ์ของเธอมีเสียงแข็งแกร่งขึ้นในสภา แต่ปรากฏว่าพรรคขอเธอกลับเสียที่นั่งให้กับคู่แข่งจากพรรคแรงงาน

อังกฤษผจญกับการก่อการร้ายมาระยะหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายใช้รถพุ่งชน และใช้อาวุธทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่สะพาน London Bridge เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน

ในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ออกเสียงตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายของอังกฤษที่เป็นมาก่อนหน้านี้

นอกจากนั้น คนอังกฤษรู้สึกไม่พอใจเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์เขียนทวีตตำหนิแนวทางการรักษาความปลอดภัยของนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน

เอียน ดันท์ บรรณาธิการของเว็บไซต์ politics.co.uk เป็นหนึ่งในผู้ที่เห็นว่า ทวีตดังกล่าวสร้างความไม่พอใจในหมู่ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และมองว่าความสนิทสนมของนายกรัฐมนตรีเมย์กับผู้นำสหรัฐฯ กระทบต่อคะแนนเสียงสนับสุนนพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ

เขากล่าวว่าทวีตของโดนัลด์ทรัมป์ทำให้มีการถกเถียงกันระดับชาติ และทำให้คนหันไปมองถึงแนวทางของยุโรปมากขึ้น เพราะเกิดความความรู้สึกไม่สบายใจเรื่องความใกล้ชิดของสหรัฐฯ และอังกฤษ

และในเดือนเมษายน ประธานาธิบดี ทรัมป์ แสดงท่าทีที่ดูเหมือนว่าจะสนับสนุนนางมารีน เลอ เปง ผู้นำพรรคขวาจัดในฝรั่งเศส ต่อจากนั้นเธอพ่ายแพ้ นายเอ็มมานูเอล มาคร็อง หัวหน้าพรรคการเมืองน้องใหม่ “ออง มาร์ช”

นักวิชาการแคเธอรีน เดอร์ วรีส์ (Catherine De Vries) จากมหาวิทยาลัย Essex อ้างถึงผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่ระบุว่า บรรยากาศเป็นมิตรระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และนางเลอ เปง มีส่วนบั่นทอนเสียงสนับสนุนของตัวเธอ

และการถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสที่ 194 ประเทศร่วมลงนามเพื่อช่วยกันลดปัญหาภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ สร้างความตระหนกให้กับประชาชนในยุโรปด้วย

อาจารย์เดอร์ วรีส์ กล่าวว่า จากที่คนยุโรปมองว่าตัวแทนการเมืองทางเลือกใหม่ที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัดน่าสนใจ ตอนนี้คนตั้งคำถามว่ามุมมองนี้ดีต่อพวกตนอย่างไร

อย่างไรก็ตาม แม้คนอังกฤษ ฝรั่งเศส และในประเทศอื่นๆ จำนวนมากไม่สนับสนุนความใกล้ชิดระหว่างผู้นำของตนกับโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงมีภาพลักษณ์ที่ดีในโปแลนด์กับบางประเทศ

เขายังมีกำหนดเยือนกรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ ในเดือนหน้า ส่วนการเยือนกรุงลอนดอนนั้น ทำเนียบขาวขอระงับแผนดังกล่าวในขณะนี้



source :- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066991658502910775

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.