Posted: 10 Mar 2018 09:34 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
สวนดุสิตโพลสำรวจพบประชาชน 48.30% คาดหวังพรรคการเมืองใหม่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง เป็นที่พึ่งประชาชนได้ 43.98% คาดหวังแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ทำเพื่อส่วนรวม พัฒนาประเทศ
11 มี.ค. 2561 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,083 คน ระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม 2561 เรื่อง “ประชาชนคาดหวังอะไร ? ต่อพรรคการเมืองใหม่” ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้กลุ่มการเมืองเข้ายื่นความจำนงขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มการเมืองตั้งขึ้นใหม่ถึง 42 พรรค ซึ่งมีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นและมีความคาดหวังต่อพรรคการเมืองใหม่ว่าจะเข้ามาช่วยพัฒนาบ้านเมืองต่อไป โดยสิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อ “พรรคการเมืองใหม่” คือ พบว่า ประชาชนร้อยละ 48.30 คาดหวังพรรคการเมืองใหม่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ขณะที่ร้อยละ 43.98 คาดหวังแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ทำเพื่อส่วนรวม พัฒนาประเทศ ร้อยละ 35.34 คาดหวังมีหัวหน้าพรรคและสมาชิกที่เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ นอกจากนี้ร้อยละ 31.02 คาดหวังเป็นคนรุ่นใหม่ มีนโยบายที่ดี มีแนวคิดใหม่ และร้อยละ 28.14 คาดหวังไม่สร้างความขัดแย้ง สาดโคลนกันไปมา
เมื่อถามว่าพรรคการเมืองใหม่จะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด พบว่า ประชาชนร้อยละ 51.78 ระบุว่าเป็นที่พึ่งได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นผู้แทนของประชาชน เป็นปากเสียง น่าจะมีศักยภาพ มีความสามารถในการทำงาน ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและนโยบายในการทำงาน และร้อยละ 48.22 ระบุว่าเป็นที่พึ่งไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นคนหน้าเดิม กลุ่มเดิม เป็นนอมินี ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก เน้นแต่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง
เมื่อถามว่าทำอย่างไรพรรคการเมืองใหม่จึงจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างดี พบว่า ร้อยละ 35.22 ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างแรก รับฟังความเห็นความเดือดร้อน ร้อยละ 22.87 เข้าใจปัญหา แก้ปัญหาให้ตรงจุด ร้อยละ 21.86 มีผลงานให้เห็น ทำงานต่อเนื่องสม่ำเสมอ ร้อยละ 18.22 ดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด เข้าถึงประชาชน และร้อยละ 17.00 ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
11 มี.ค. 2561 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,083 คน ระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม 2561 เรื่อง “ประชาชนคาดหวังอะไร ? ต่อพรรคการเมืองใหม่” ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้กลุ่มการเมืองเข้ายื่นความจำนงขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มการเมืองตั้งขึ้นใหม่ถึง 42 พรรค ซึ่งมีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นและมีความคาดหวังต่อพรรคการเมืองใหม่ว่าจะเข้ามาช่วยพัฒนาบ้านเมืองต่อไป โดยสิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อ “พรรคการเมืองใหม่” คือ พบว่า ประชาชนร้อยละ 48.30 คาดหวังพรรคการเมืองใหม่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ขณะที่ร้อยละ 43.98 คาดหวังแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ทำเพื่อส่วนรวม พัฒนาประเทศ ร้อยละ 35.34 คาดหวังมีหัวหน้าพรรคและสมาชิกที่เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ นอกจากนี้ร้อยละ 31.02 คาดหวังเป็นคนรุ่นใหม่ มีนโยบายที่ดี มีแนวคิดใหม่ และร้อยละ 28.14 คาดหวังไม่สร้างความขัดแย้ง สาดโคลนกันไปมา
เมื่อถามว่าพรรคการเมืองใหม่จะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด พบว่า ประชาชนร้อยละ 51.78 ระบุว่าเป็นที่พึ่งได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นผู้แทนของประชาชน เป็นปากเสียง น่าจะมีศักยภาพ มีความสามารถในการทำงาน ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและนโยบายในการทำงาน และร้อยละ 48.22 ระบุว่าเป็นที่พึ่งไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นคนหน้าเดิม กลุ่มเดิม เป็นนอมินี ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก เน้นแต่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง
เมื่อถามว่าทำอย่างไรพรรคการเมืองใหม่จึงจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างดี พบว่า ร้อยละ 35.22 ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างแรก รับฟังความเห็นความเดือดร้อน ร้อยละ 22.87 เข้าใจปัญหา แก้ปัญหาให้ตรงจุด ร้อยละ 21.86 มีผลงานให้เห็น ทำงานต่อเนื่องสม่ำเสมอ ร้อยละ 18.22 ดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด เข้าถึงประชาชน และร้อยละ 17.00 ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
แสดงความคิดเห็น