Posted: 01 Mar 2018 05:52 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
รมว.ต่างประเทศ ใน รบ.ทหารไทย ร่วมการประชุมระดับสูงของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ย้ำไทยส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการประกาศวาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
1 ก.พ.2561 เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council - HRC) สมัยที่ 37 ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา
รมว.ต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม HRC สมัยที่ 37 เกี่ยวกับพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนของไทยและการทำงานของกลไกด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมทั้งการครบรอบ 70 ปีของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ในด้านการดำเนินการของไทย ดอน ได้ย้ำความมุ่งมั่นในการอนุวัติวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. 2030 และการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน บนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งได้แจ้งพัฒนาการเชิงบวกของไทย โดยเฉพาะการประกาศวาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการริเริ่มมาตรการทางสังคมและการปฏิรูปกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหาบุคคลไร้รัฐ
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศ ยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการทำงานของกลไกด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การเสริมสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกแก่เด็กและเยาวชน โดยเริ่มจากในครอบครัว การใช้สิทธิเสรีภาพที่ไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ของผู้อื่นเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานด้วยว่า รมว.ต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมฯ พบหารือกับ Filippo Grandi ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือเกี่ยวกับสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานทั้งในไทยและภูมิภาค โดยได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่และความร่วมมือในการส่งกลับผู้หนีภัยการสู้รบเมียนมาที่อาศัยอยู่ในไทย ทั้งนี้ ข้าหลวงใหญ่ฯ แสดงความชื่นชมไทยในการขจัดความไร้รัฐและขอให้ไทยคงการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้แสวงหาที่พักพิง นอกจากนี้ รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามและผลักดันความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในประเด็นต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของไทยในมิตินี้ต่อไป
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ระบุด้วยว่า การเข้าร่วมประชุม HRC สมัยที่ 37 เป็นโอกาสที่สำคัญของไทยในการยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งแจ้งพัฒนาการเชิงบวกของไทยและร่วมฉลองการครบรอบ 70 ปีของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน 48 ประเทศแรกที่ร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว
ชี้คดีพุ่ง ศูนย์ทนายสิทธิฯ เปิดรายงานหลัง 79 วันรัฐบาลชูสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ
ครม.ประกาศ 'สิทธิมนุษยชน' ร่วมเคลื่อน Thailand 4.0 เป็นวาระแห่งชาติ
ขณะที่เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่รายงาน หลังประกาศวาระแห่งชาติดังกล่าว ขณะนี้ผ่านไป 79 วัน พบว่ามีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการใช้เสรีภาพอย่างน้อย 74 คน เฉลี่ยทุกๆ วันจะมีคนถูกดำเนินคดีประมาณ 1 คน หากนับเป็นคดี จะมีอย่างน้อย 11 คดี หรือเฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 1 คดี
ศูนย์ทนายความฯ ยังชี้ด้วยว่า อาจจะมีจำนวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นอีก เช่น กรณีคดี “MBK39” ที่อาจจะมีตามมาอีก 66 คน หากเป็นตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงการชุมนุม ของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และกลุ่ม Start Up People ในกิจกรรม ‘หยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ’ โดยมีการชุมนุมและปราศรัยที่สกายวอล์กปทุมวัน หน้าห้าง MBK เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
[full-post]
ที่มาภาพ เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
1 ก.พ.2561 เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council - HRC) สมัยที่ 37 ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา
รมว.ต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม HRC สมัยที่ 37 เกี่ยวกับพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนของไทยและการทำงานของกลไกด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมทั้งการครบรอบ 70 ปีของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ในด้านการดำเนินการของไทย ดอน ได้ย้ำความมุ่งมั่นในการอนุวัติวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. 2030 และการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน บนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งได้แจ้งพัฒนาการเชิงบวกของไทย โดยเฉพาะการประกาศวาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการริเริ่มมาตรการทางสังคมและการปฏิรูปกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหาบุคคลไร้รัฐ
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศ ยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการทำงานของกลไกด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การเสริมสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกแก่เด็กและเยาวชน โดยเริ่มจากในครอบครัว การใช้สิทธิเสรีภาพที่ไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ของผู้อื่นเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานด้วยว่า รมว.ต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมฯ พบหารือกับ Filippo Grandi ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือเกี่ยวกับสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานทั้งในไทยและภูมิภาค โดยได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่และความร่วมมือในการส่งกลับผู้หนีภัยการสู้รบเมียนมาที่อาศัยอยู่ในไทย ทั้งนี้ ข้าหลวงใหญ่ฯ แสดงความชื่นชมไทยในการขจัดความไร้รัฐและขอให้ไทยคงการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้แสวงหาที่พักพิง นอกจากนี้ รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามและผลักดันความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในประเด็นต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของไทยในมิตินี้ต่อไป
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ระบุด้วยว่า การเข้าร่วมประชุม HRC สมัยที่ 37 เป็นโอกาสที่สำคัญของไทยในการยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งแจ้งพัฒนาการเชิงบวกของไทยและร่วมฉลองการครบรอบ 70 ปีของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน 48 ประเทศแรกที่ร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว
ชี้คดีพุ่ง ศูนย์ทนายสิทธิฯ เปิดรายงานหลัง 79 วันรัฐบาลชูสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ
ครม.ประกาศ 'สิทธิมนุษยชน' ร่วมเคลื่อน Thailand 4.0 เป็นวาระแห่งชาติ
ขณะที่เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่รายงาน หลังประกาศวาระแห่งชาติดังกล่าว ขณะนี้ผ่านไป 79 วัน พบว่ามีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการใช้เสรีภาพอย่างน้อย 74 คน เฉลี่ยทุกๆ วันจะมีคนถูกดำเนินคดีประมาณ 1 คน หากนับเป็นคดี จะมีอย่างน้อย 11 คดี หรือเฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 1 คดี
ศูนย์ทนายความฯ ยังชี้ด้วยว่า อาจจะมีจำนวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นอีก เช่น กรณีคดี “MBK39” ที่อาจจะมีตามมาอีก 66 คน หากเป็นตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงการชุมนุม ของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และกลุ่ม Start Up People ในกิจกรรม ‘หยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ’ โดยมีการชุมนุมและปราศรัยที่สกายวอล์กปทุมวัน หน้าห้าง MBK เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
แสดงความคิดเห็น