Posted: 18 Jun 2018 08:50 AM PDT

ใบตองแห้ง

ไชโย ลุงตู่เป็นผู้นำ ชวนคนไทยแก้ปัญหาขยะ รณรงค์ลดใช้ถุงก๊อบแก๊บ กล่องโฟม จดบันทึกสร้างจิตสำนึก แบ่งเบาภาระรัฐบาล

ส่วนเรื่องโรงงานคัดแยกขยะรีไซเคิล ที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นถังขยะโลก ท่านบอกว่าเกิดขึ้นนานแล้ว รัฐบาลนี้ต้องมาแก้ปัญหา

ไม่รู้มีใครบอกท่านไหม ใช่เลย ปัญหาต่อเนื่องหลายรัฐบาล แต่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่งประกาศยกเว้นให้ผู้นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย เมื่อปี 2558 นี่เอง ซ้ำ ม.44 อีอีซี ก็มีช่องโหว่ให้โรงคัดแยกขยะโดยไม่ติดกฎหมายผังเมือง นี่มูลนิธิบูรณะนิเวศบอกมา

แต่เชื่อเถอะ ถ้าลุงตู่รู้ คงควันขึ้น รีบแก้ปัญหา ถ้าจำเป็นก็ใช้ ม.44 ปราบขยะ เหมือนปิดเหมืองทอง ไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง เพราะใช้ ม.44 แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

เผด็จการยุคลุงตู่ แม้บรรยง พงษ์พานิช ผิดหวังว่าไม่ใช่ “เผด็จการผู้ทรงคุณ” แต่ก็เป็นเผด็จการที่ใส่ใจกระแสสังคมนะ โดยเฉพาะสังคมออนไลน์ ไม่งั้นคงไม่อัดอั้น ระบายอารมณ์ บ่นสื่อโซเชี่ยล ถามเด็กอนุบาลรู้จักลุงตู่ไหม รู้สิ เป็นนักร้องไง รู้สิ มาเมื่อไหร่ปิดทีวี

เผด็จการยุคลุงตู่ไม่เหมือนอดีต ตรงที่รู้จักเอาใจกระแส ไม่แพ้นักการเมือง ทั้งที่เป้าหมายมุ่งสถาปนาระบอบถอยหลัง เพิ่มอำนาจรัฐราชการขุนทหารชนชั้นนำ ครอบงำเหนือประชาชน จำกัดสิทธิเสรีทางการเมือง การชุมนุม วิพากษ์วิจารณ์

แต่ถ้าเป็นด้านอื่น เผด็จการลุงตู่เอาใจหมด โดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมือง ที่มีเป้าหมายร่วมกัน คือไม่เอาประชาธิปไตยจากเลือกตั้ง ฝันสร้างโลกแสนงามร่วมกับระบอบทหาร

เราก็เลยเห็นเผด็จการโลกสวย คุณภาพชีวิต รักสัตว์ รักษ์ป่า รักษ์น้ำ เผด็จการลดถุงก๊อบแก๊บ ลดเหลื่อมล้ำ สร้างทางจักรยาน ถนนเลียบแม่น้ำ ฯลฯ อะไรที่ถูกรสนิยมคนชั้นกลางเซลฟี่ ดีไปหมด กระทั่งตั้งศศิน เฉลิมลาภ เป็นกรรมการอุทยาน ตั้งธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นบอร์ด ปตท.เพื่อรักษ์ทะเล (พร้อมเบี้ยประชุมโบนัส)

ขณะเดียวกันก็จัดระเบียบสังคม รถตู้ แท็กซี่ แมงไซค์ หาบเร่ แผงลอย ไล่คนรุกล้ำแม่น้ำลำคลอง ไล่ที่ป้อมมหากาฬ ทวงคืนผืนป่า ไล่คนออกจากป่า ปราบค้ามนุษย์ ปราบอิทธิพล ปราบโกง โดยใช้อำนาจเฉียบขาดเข้มข้น ถูกใจสะใจคนชั้นกลาง โดยไม่ถามถึงความยั่งยืนหรือผู้ได้รับผลกระทบ

ยิ่งถ้ามีดราม่าออนไลน์ ก็ไม่ต้องห่วง รัฐบาลเต้นเร่า อำนาจพิเศษจัดให้ ปลด ผอ. ปลดปลัดกระทรวงทันใจ รัฐบาลเลือกตั้งทำได้อย่างนี้ไหม (ยกเว้นนาฬิกาลุงป้อม หรือสปิริตปู่ดอน นั่นดราม่ากันไปเอง)

จึงไม่แปลกใจ 4 ปีผ่านไป คนชั้นกลางจำนวนมากที่เคยร่วม “กองทัพธรรม” ชัตดาวน์ขัดขวางเลือกตั้ง ยังพอใจเผด็จการลดถุงก๊อบแก๊บ อยากให้แช่แข็งต่อไปด้วยซ้ำ เพื่อปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการศึกษา ให้เด็กไทยรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดนอกกรอบ มีจริยธรรม ภายใต้ระบอบทหาร

เพียงแต่เมื่อจำต้องเลือกตั้ง ก็หนุนลุงตู่กันต่อไป ให้ได้เสียงข้างมาก ไม่ว่าจะดูดจะกวาด หรือถ้าแพ้เสียงข้างมาก ก็พึ่งกติกาที่บล็อกไว้เพื่อชาติ ไม่น่าเกลียดอะไร

แค่สงสัยว่าระบอบที่ไม่มีกฎกติกาแน่นอน ฝากความหวังไว้กับลุงตู่คนเดียว จะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มี ม.44

เผด็จการยุคลุงตู่ ไม่ได้เป็นเพียงพรรคพวกนิยม หรือคณาธิปไตย อย่างที่บรรยงเทียบยุคทักษิณ เผด็จการยุคลุงตู่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่กว่าประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง นั่นคือต้องการฟื้นอำนาจรัฐราชการอนุรักษนิยมให้เข้มแข็ง แบบไม่ให้ประชาธิปไตยจากประชาชนได้ผุดได้เกิดอีกเลย อย่างน้อยก็ในยุทธศาสตร์ 20 ปี โดยเชื่อว่านี่คือภารกิจรักษาความมั่นคงของชาติบ้านเมือง

เพียงแต่สิ่งที่ได้มา คือระบบอุปถัมภ์ ความใหญ่โตเทอะทะ สิ้นเปลือง ไม่โปร่งใส ไร้ประสิทธิภาพ วัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนาย ของรัฐราชการ ที่ไม่มีทางปฏิรูปตัวเอง ขับเคลื่อนประเทศไม่ได้

ขณะเดียวกัน หลังจากทำลายกฎกติกา สถาปนานิติรัฐอุปโลกน์ ประเทศก็ไม่เหลือหลักเกณฑ์ให้ยึดเหนี่ยว นอกจากความเชื่อตัวบุคคลกับอำนาจเฉพาะหน้า คือลุงตู่กับ ม.44 ซึ่งแก้ปัญหาไปตามกระแสสังคม

ประชาชนก็อยู่กันแบบวันดีคืนดี ลุงตู่ชวนคนไปเลือกตั้ง ทั้งที่เพิ่งจับคนอยากเลือกตั้ง วันดีคืนดี ลุงตู่บอกให้ด่าได้ แต่คนด่าถูกแจ้งจับฐานให้ร้าย ข้อมูลเท็จ แค่แชร์ก็โดน

รัฐราชการล้าหลังเป็นใหญ่ อำนาจใช้โดยไม่มีหลักเกณฑ์ ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย อารมณ์สังคมแปรปรวน น้ำขึ้นน้ำลง ไม่เว้นแม้ผู้นำ นี่คือจุดที่เราอยู่ หลัง 4 ปีผ่านไป และอีก 8 เดือนจะเลือกตั้ง ถามเด็กหน่อยไหม ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร



ที่มา: www.khaosod.co.th/politics/news_1224023

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.