Posted: 25 Jun 2018 09:22 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว รายงาน
กลุ่มผู้เลี้ยงวัวบ้านพนม จ.สุรินทร์ยื่นหนังสือร้องผู้ใหญ่บ้าน ที่สาธารณะประโยชน์ที่มีไว้ใช้เลี้ยงสัตว์ของชุมชนถูกบุกรุกจับจอง ผู้บุกรุกอ้างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ปลัดอำเภอ/กำนัน ลงตรวจสอบพื้นที่เห็นร่องรอยการบุกเบิก แต่ยังไม่ได้พบผู้บุกรุก
วันนี้ (25 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 61 ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านมีชาวบ้านผู้เลี้ยงวัว บ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กว่า 20 คน เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายเปรียว สุขลอย ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ โดยในหนังสือมีข้อความระบุว่า พวกเราชาวบ้านผู้เลี้ยงวัว บ้านพนม หมู่ 7 ตำบลประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้พบเห็นนาย ก.(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน แห่งหนึ่งในตำบลประทัดบุ ได้ทำการไถพื้นที่ป่าทำเล ป่าเสมาะเกรียล ป่าประเลียน ป่าปวงตึก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พวกเราใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ซึ่งกลุ่มบุคคลที่มาทำการไถเพื่อเป็นพื้นที่เช่าในการปลูกมันสัมปะหลัง ได้บอกว่า ไม่ใช่ที่ของทำเลเลี้ยงวัว และได้บอกให้ไล่วัวไปเลี้ยงบนเขาสวาย และยังบอกว่าจะทำการไถเพื่อแบ่งเป็นล็อกๆให้บุคคลที่ต้องการปลูกมัน มาเช่าเพื่อทำการปลูกมันสำปะหลัง ต่อมาชาวบ้านยังพบเห็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นลูกน้องของหัวหน้า ( ต.) ได้มาชี้เขตให้กับนาย ก.(นามสมมุติ) และนายทุน พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ ขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยพวกเรา ชาวบ้านกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ช่วยตรวจสอบว่าพวกเราสามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวเลี้ยงวัวได้ไหม
นายเปรียว สุขลอย ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง นายพิสิฐ ประดับวัน กำนันตำบลประทัดบุ เพื่อทราบแล้วหาแนวทางประสานช่วยเหลือต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ป่าเสมาะเกรียล ป่าประเลียน ป่าปวงตึก หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นายเขศทัต วรรณสัย ปลัดอำเภอปราสาท นายพิสิฐ ประดับวัน กำนันตำบลประทัดบุ รองประธานสภา อบต. สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านในตำบลประทัดบุกว่า 14 คน และชาวบ้านผู้เสี้ยงวัวอีกกว่า 20 คน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่าที่ดินป่าทำเลมีนายทุนมาบุกรุก และไล่ชาวบ้านผู้เลี้ยงวัวออกนอกพื้นที่ ซึ่งได้เคยมีการรังวัดสอบแนวเขต เมื่อปี 2528 แล้วได้เนื้อที่กว่า 1,801 ไร่ 2 งาน 15 ตารางวา แต่ในการตรวจสอบในครั้งนั้น ยังไม่มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงให้ ต่อมาเมื่อปี 2557 คณะกรรมการชี้แนวเขตนำชี้ในพื้นที่แปลงนี้ และในการตรวจสอบนั้น มีชาวบ้านมาคัดค้านหลายราย ซึ่งในส่วนที่ไม่มีการคัดค้าน มีเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่ แต่มีชาวบ้านแอบมาจับจองครอบครองที่ส่วนนี้ และได้ตกลงขายที่ส่วนนี้ให้นายทุนไป
นางพลอย (นามสมมุติ) เป็นคนบ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เล่าว่า เมื่อก่อนตนเคยถามพ่อตนว่า ทำไมไม่ไปจับจองที่ดินตรงนี้เหมือนเขา พ่อตนเลยบอกกลับมาว่า ที่ตรงนี้ไม่ต้องไปจับจองหรอก มันเป็นที่ป่าทำเล ถึงจะจับจองไปเดี๋ยวหลวงก็มาเอาคืน ส่วนตอนนี้ มีนายทุน มาซื้อเอาจากชาวบ้านที่กล้ามาจับจองในสมัยก่อน เขาก็มาขายให้นายทุน นายทุนก็ส่งคนเอารถมาไถที่ แบ่งเป็นแปลง ซึ่งเขามาบอกก็คนเลี้ยงวัวแถวนี้ว่า เขาดำเนินคดีชนะแล้ว เลยมาไถไว้เป็นแปลงๆ ไว้ให้ชาวบ้านมาเช่าที่ปลูกมันสำปะหลัง ตอนนี้พวกตน กลุ่มคนเลี้ยงวัวกว่า 20 คน มีวัวทั้งหมดกว่า 1,000 ตัว เดือดร้อนหนัก ไม่มีที่เลี้ยงวัวแล้ว ซึ่งนายทุนก็ได้ไล่พวกตนให้ไปเลี้ยงวัวอยู่บนเขา แต่บนเขามันมีแต่ต้นไม้ ไม่สามารถจะเอาวัวไปเลี้ยงได้
นายเติม ปรึกษาดี อายุ 73 ปี ชาวบ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนเลี้ยงวัวอยู่ 30 ตัว และตนก็ไม่รู้จะทำยังไงหากนายทุนมากีดกันไม่ให้นำวัวมาเลี้ยงบริเวณนี้ ซึ่งเท่าที่ตนเห็นการไถแล้ว เหมือนว่า แบ่งเป็นแปลงๆ เพื่อให้ชาวบ้านมาเช่าทำกิน ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาดู ให้มันกระจ่างเสียทีว่าที่ดินแปลงนี้มันเป็นยังไง แค่ให้เป็นที่เลี้ยงวัวได้ตนก็พอใจแล้ว ซึ่งตอนนี้เอง มีชาวเลี้ยงวัวอีกหลายๆ คนไม่กล้านำวัวมาเลี้ยงที่บริเวณนี้ เพราะกลัวเรื่องข้อพิพาทที่กำลังเกิด
นางแปะ มั่งคั่ง อายุ 68 ปี อยู่บ้านพนม หมู่ 7 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า มีชาวบ้านที่นำวัวมาเลี้ยงเมื่อหลายวันก่อนได้พบเห็นคนๆ หนึ่ง กำลังใช้ไถนามาไถที่ดินในแปลงนี้ เลยถามไปว่า จะมาไถทำไม ทำไมถึงกล้าไถ ไม่กลัวหลวงมายึดรถไถเหรอ คนไถนาเลยตอบมาว่า จะกลัวไปทำไม คุณเอ (นามสมมุติ) ให้มาไถ ไม่กลัว ไถเป็นล็อกๆไว้แล้ว
ซึ่งที่ดินตรงนี้ที่ตนทราบมาคือ เป็นที่ทำเลสาธารณะประโยชน์ มาตั้งแต่สมัย ปู่ ย่า ตา ทวดแล้ว ในสมัยที่ปู่ทวดของตนซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านพนมแห่งนี้ สมัยนั้นปู่ทวดท่านก็ไปจับจองที่ดิน ตรงที่มีโฉนดเท่านั้น ส่วนที่ดินสาธารณประโยชน์ ปู่ทวดจะไม่มายุ่งไม่มาจับจอง เพราะว่ามันครอบครองไม่ได้ ตอนนี้ตนก็อายุจะ 70 ปีแล้ว และก็ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่ามีการซื้อขายที่ดินป่าทำเลแห่งนี้ ซึ่งตนประกอบอาชีพเลี้ยงวัวมาแล้วกว่า 20 ปี เลี้ยงทั้งหมด 23 ตัว และหากที่ป่าทำเลนี้ไปตกเป็นของนายทุน ตนเดือดร้อนแน่ๆ ไม่มีที่เลี้ยงวัวแล้ว
นายพิสิฐ ประดับวัน กำนันตำบลประทัดบุ เล่าว่า ในอดีตที่แปลงนี้เป็นที่ป่าทำเล ชื่อป่าเสมาะเกรียล ป่าประเลียน ป่าปวงตึก ซึ่งได้ประกาศขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2468 มีเนื้อที่ทั้งหมด 2,500 ไร่ ต่อมาได้มีการรังวัดสอบแนวเขต เมื่อปี 2528 ได้เนื้อที่ 1,801 ไร่ 2 งาน 15 ตารางวา ซึ่งในการตรวจสอบในครั้งนี้ ยังไม่มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง แต่ก็ไม่มีเรื่องคืบหน้า จนกระทั่ง เมื่อปี 2557 มีชาวบ้านร้องเรียนไปที่สำนักปลัดนายกฯ ทางสำนักปลัดนายกฯ ก็ได้มีหนังสือสั่งการลงมาให้ทาง จังหวัดสุรินทร์เข้าตรวจสอบ จังหวัดก็สั่งการมาที่อำเภอปราสาท ทางอำเภอปราสาทก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบ คือคณะกรรมการชี้แนวเขต เพื่อที่จะนำชี้ในพื้นที่แปลงนี้ และในการตรวจสอบนั้น มีชาวบ้านมาคัดค้านหลายราย ซึ่งในส่วนที่ชาวบ้านมาคัดค้านตนเองก็ไม่ติดใจอะไร ตนติดใจในส่วนที่ไม่มีการคัดค้าน ตนอยากจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ช่วยมาผลักดันให้มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงโดยวัย เพราะไม่งั้น ชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ต่อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากทางผู้ใหญ่บ้าน ว่ากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวบ้านพนม โดนบุคคลที่มาไถที่ดินแปลงนี้ ไล่ให้ไปเลี้ยงวัวที่อื่น ว่าที่ดินแปลงนี้ไม่ใช่ที่ป่าทำเล เป็นที่ส่วนบุคคล เป็นที่มรดก อะไรประมาณนั้น ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากเลยทำหนังสือร้องเรียนผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งการที่ตนลงมาตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้ เห็นมีการไถแบ่งเป็นล็อกๆไว้ โดยไม่ทราบเจตนาของผู้ที่มาไถ แต่ตนได้สอบถามผู้เสี้ยงวัวว่าคนที่มาไถ มีเจตนาจะแบ่งล็อกให้เช่า
[full-post]
แสดงความคิดเห็น