สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ

Posted: 20 Jun 2018 12:01 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

เอ็นเอชเค รายงานว่าสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงเสด็จเยือนพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางภูมิภาคโทโฮคุทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหยุดปฏิบัติพระราชกรณียกิจและเตรียมสละราชสมบัติภายในเดือน เม.ย. 2562

เอ็นเอชเคระบุว่าตั้งแต่รัชสมัยเฮเซซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2532 ที่จักรพรรดิอะกิฮิโตะเริ่มครองราชย์มาจนถึงทุกวันนี้หนึ่งในพระราขกรณียกิจหลักของจักรพรรดิและจักรพรรดินีของญี่ปุ่นคือการเสด็จเยือนพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในช่วงยุคสมัยเฮเซเองก็มีภัยพิบัติใหญ่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นหลายครั้ง เช่นในปี 2534 มีกรณีภูเขาไฟอุนเซน-ฟุเกนปะทุในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชินในปี 2538 เหตุแผ่นดินไหวและสึนามิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2554

จักรพรรดิและจักรพรรดินีของญี่ปุ่นทรงเสด็จเยือนพื้นที่ประสบภัยเหล่านี้ทุกแห่ง และได้ทรงพบปะกับผู้รอดชีวิตที่สูญเสียคนรู้จัก และตรัสให้กำลังใจผู้คนเหล่านี้รวมถึงทอดพระเนตรการทำงานฟื้นฟูพื้นที่เหล่านี้ โดยล่าสุดทั้งสองพระองค์เสด็จเยือนภูมิภาคโทโฮคุก่อนเตรียมสละราชสมบัติ

เอ็นเอชเครายงานว่าทั้งสองพระองค์เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงไปถึงฟุกุชิมาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเริ่มเสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์การเคหะสำหรับผู้อพยพจากภัยพิบัติในเมืองอิวากิ ผู้คนจำนวนมากราว 440 รายจากเมืองต่างๆ จำต้องอพยพหลังจากเกิดภัยพิบัติที่ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วไหล นอกจากนี้เอ็นเอชเคยังรายงานถึงรายละเอียดที่ทั้งสองพระองค์มีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนถึงสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงรับฟังความรู้สึกของผู้ประสบภัย

สื่อเอ็นเอชเคซึ่งรวมขบวนเสด็จของทั้งสองพระองค์รายงานสภาพพื้นที่ที่กลายเป็นที่ต้องห้ามเพราะมีระดับกัมมันตภาพรังสีสูงว่าจากเดิมที่เป็นทุ่งนาในตอนนี้มีแต่วัชพืชรกร้าง ถนนกลายเป็นพื้นที่เก็บสิ่งของเหลือทิ้งปนเปื้อนและมีแต่บ้านที่ว่างเปล่า ภาพเช่นนี้ชวนให้รู้สึกว่ามีความคืบหน้าของการฟื้นฟูก่อสร้างบริเวณนี้น้อยมาก

สื่อญี่ปุ่นยังระบุถึงพระอาการประชวรของสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะในช่วงวันที่ 11 มิ.ย. แต่ก็ยังทรงเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเหตุภัยพิบัติที่เมืองโซมะ เมืองชายฝั่งที่ภัยพิบัติเคยคร่าชีวิตผู้คนไป 200 ราย และมีการจัดอนุสรณ์สถานในเขตฮารากามะเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต จากนั้นทั้งสองพระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือประมงที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากได้รับความเสียหายจากสึนามิ อย่างไรก็ตามชาวบ้านในฟุกุชิมะก็ได้รับผลกระทบจากข่าวลือเรื่องปลาปนเปื้อนทำให้จับปลาได้ลดลง ทำให้ทั้งสองพระองค์ให้กำลังใจรวมถึงแแสดงความชื่นชมความอดทนของชาวประมง และทรงซื้อสินค้าประมงรวมถึงเสวยพระกระยาหารกลางวันที่ทำจากอาหารทะเลของฟุกุชิมะ

เอ็นเอชเครายงานต่อไปว่าหลังจากเสร็จพระราชกรณียกิจในการไปเยี่ยมผู้ประสบภัยแล้วทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินผ่านฝูงชนด้วยท่าทีรั้งรอเหมือนไม่อยากกลับไป ยูคาตะ คาวาชิมะ ผู้เคยเป็นประธานกรรมการของกรมวังแห่งสำนักพระราชวังญี่ปุ่นในช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นกล่าวว่า "ทั้งสองพระองค์พยายามมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และทรงสบตากับประชาชน ทรงให้กำลังใจและทำให้ประชาชนมีแรงพลังในการเดินต่อไปข้างหน้า ฉันเชื่อว่าทั้งสองพระองค์จะยังทรงพยายามมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันสละราชสมบัติ"



เรียบเรียงจาก

Imperial Couple's "Final Visit" to Disaster-hit Northeast, NHK, 19-06-2018[right-side]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.