ยูเอ็นกังวลกฎหมายความมั่นค งมาเลเซีย มอบอำนาจรัฐจัดการผู้ต้องสง สัยถึงตาย
นายโลรองต์ เมลลอง รักษาการผู้แทนสำนักงานข้าห ลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่ งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ (OHCHR) ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 29 ก.ค. เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซีย ทบทวนกฎหมายความมั่นคงแห่งช าติฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค.2559 เป็นต้นไป
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ OHCHR ระบุว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของมาเลเซียฉบับใหม ่จะเปิดโอกาสให้สภาความมั่น คงแห่งชาติ ซึ่งมีนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธานสภา สามารถประกาศเขตความมั่นคงใ นพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลใ ช้อำนาจในการจับกุม ตรวจค้น ยึดทรัพย์สิน ตลอดจนใช้กำลังอาวุธกับผู้ต ้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อความม ั่นคงของชาติได้โดยไม่ต้องม ีหมายศาล
เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะได้รับก ารคุ้มครองตามกฎหมายไม่ให้ถ ูกเอาผิดหรือดำเนินคดีใดๆ อันเป็นผลจากการปฏิบัติหน้า ที่ตามการบังคับใช้กฎหมายคว ามมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งจะครอบคลุมถึงกรณีเจ้าห น้าที่ใช้กำลังอาวุธจนทำให้ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อค วามมั่นคงแห่งชาติถึงแก่ควา มตาย แม้การประกาศเขตความมั่นคงแ ต่ละครั้งจะมีระยะเวลาสูงสุ ดไม่เกิน 6 เดือน แต่นายกรัฐมนตรีสามารถออกคำ สั่งขยายเวลาประกาศเขตความม ั่นคงออกไปได้ไม่จำกัดจำนวน ครั้ง
นายเมลลองระบุว่ากฎหมายดังก ล่าวขัดแย้งต่อหลักการตรวจส อบและดำเนินคดีต่อผู้กระทำค วามผิดฐานละเมิดสิทธิมนุษยช น และ OHCHR เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซีย แก้ไขกฎหมายความมั่นคงให้สอ ดคล้องกับมาตรฐานสากลว่าด้ว ยหลักการด้านสิทธิมนุษยชน และจะต้องเปิดโอกาสให้ประชา ชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนมีส ่วนร่วมในการกระบวนการพิจาร ณาแก้ไขกฎหมายดังกล่าวด้วย
กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ขอ งมาเลเซียถูกเสนอต่อที่ประช ุมสภาในวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว และได้รับความเห็นชอบจากสภา ผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในวัน ที่ 3 และ 22 ธ.ค.ตามลำดับ
นายโลรองต์ เมลลอง รักษาการผู้แทนสำนักงานข้าห
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ OHCHR ระบุว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของมาเลเซียฉบับใหม
เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะได้รับก
นายเมลลองระบุว่ากฎหมายดังก
กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ขอ
แสดงความคิดเห็น