การบิดเบือนที่ระบาดจากโลกออนไลน์สู่หนังสือพิมพ์

หลายท่านอาจเคยเห็นว่ามีการเผยแพร่ข้อความต่อไปนี้มาระยะหนึ่งในสื่อออนไลน์ดังนี้ :

“....ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ สรุปว่า 

1.คดีความต่างๆที่เกิดขึ้นในทางการเมือง คดีความจะไม่มีวันหมดอายุความ

2.หากนักการเมืองมีการโกงกิน คอรัปชั่น ผลาญงบประมาณเป็นว่าเล่น มีโทษหนัก คือ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชัวิต ไม่มีการรอลงอาญา และมิให้ประกันตัว

3.หากมีการตรวจสอบพบว่า มีการร่ำรวยผิดปกติ มีการฟอกเงิน มีการยักยอกทรัพย์สินของทางราชการหรืองบประมาณแผ่นดินไปเป็นของตนเองหรือพวกพ้อง ต้องโทษจำคุก 15 ถึง 30 ปี และยึดทรัพย์ที่ได้ไปโดยมิชอบนั้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน

4.หากบริหารประเทศผิดพลาดทำ
ให้ประเทศชาติเสียหาย หรือเป็นหนี้มหาศาล ต้องโทษจำคุก 15 ถึง 30 ปี

5.เมื่อมีคดีความติดตัว คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาลหรือองค์กรอิสระ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด

6.ห้ามมิให้นักการเมืองใช้ช่องทาง VIP มิให้อำนวยความสะดวกให้แก่นักการเมือง ห้ามโดยสารเครี่องบินชั้น First Class ฟรี...”

เข้าใจได้ไม่ยากว่าผู้เขียนและเผยแพร่ข้อความนี้คงต้องการใช้เป็นเหตุผลให้คนอ่านรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้ตรรกะว่ามีเนื้อหาเหล่านี้อยู่ในร่างฯซึ่งจะทำให้นักการเมืองเดือดร้อน ที่นักการเมืองไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญก็เพราะนักการเมืองเดือดร้อน แต่ประชาชนไม่เดือดร้อน เพราะฉะนั้นควรช่วยกันรับร่างรัฐธรรมนูญนี้

ข้อความที่ยกมาทั้งหมด 6 ข้อนี้ ถ้ามีอยู่จริงในร่างรัฐธรรมนูญ ก็คงสามารถถกเถียงกันได้ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

แต่ปัญหา ก็คือ ไม่มีข้อความเหล่านี้ในร่างรัฐธรรมนูญ

ผมหายังไงก็หาไม่เจอครับ ใครตรวจสอบแล้วเจอก็ช่วยบอกผมด้วย

ที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่มีข้อความเหล่านี้ก็ไม่ได้แสดงว่าร่างนี้ดีหรือไม่ดีหรอกครับ เขามีหลักง่ายๆว่าจะไม่มีบทกำหนดโทษทางอาญาในรัฐธรรมนูญ ต้องไปกำหนดเอาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น ถ้าเป็นมาตรการเกี่ยวกับการให้ประกันตัวหรือไม่ คดีมีอายุความเท่าใด หรือมีคดีความแล้วออกนอกประเทศได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่กำหนดอยู่ในกฎหมายเช่นกันหรือระเบียบของศาล

ส่วนเรื่องทางบริหาร เช่น การนั่งเครื่องบินชั้นไหน เป็นวีไอพีหรือไม่ก็เป็นเรื่องระเบียบทางราชการหรือระเบียบของการท่าอากาศยานหรือสายการบิน ทั้งหมดนี้จึงไม่มีในรัฐธรรมนูญ

ที่เอามาเขียนเผยแพร่กันเป็นตุเป็นตะ เป็นการยกเมฆ โกหกกันดื้อๆ

ผมเห็นข้อความนี้เผยแพร่กันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้วิจารณ์สักที และสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมกกต.ไม่เห็นว่าอะไร

ล่าสุดมาเห็นข้อความนี้ปรากฏในคอลัมน์ๆหนึ่งของหนังสือพิมพ์ชื่อดังเข้า เป็นข้อความเดียวกันทุกอย่าง โดยบอกว่าเป็นเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญและต้องการให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงประชามติด้วย ซึ่งก็หมายความว่าผู้เขียนกำลังเผยแพร่ข้อความอันเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน

น่าเศร้าใจที่มีผู้หลงเชื่อคล้อยตามไปกับข้อความที่บิดเบือนนี้เป็นจำนวนไม่นอ้ย

ผมมีคำถามถึงกกต.ทั้งชุดโดยเฉพาะคุณสมชัย ศรีสุทธิยากรว่าท่านอ่านบทความนี้แล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็อ่านเสียโดยเร็ว และเมื่ออ่านแล้วก็ขอถามว่า ท่านเห็นว่ากรณีนี้ผิดกฎหมายประชามติหรือไม่ ถ้าผิด ท่านจะทำอย่างไรต่อไป

ผมอ่านบทความนี้แล้วก็ลองเทียบกับจดหมายแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังเป็นเหตุข้ออ้างให้คสช.กำลังคุกคามผู้ที่เกี่ยวข้องกับจดหมายฉบับนี้แบบเอาเป็นเอาตาย เอาเขาไปขังในค่ายทหาร เค้นให้เขาให้การโดยไม่มีทนายความอยู่ด้วยและกำลังจะตั้งข้อหาร้ายแรงอัตราโทษจำคุกรวมกัน 2 ข้อหาอาจมากถึง 17 ปีที่จะต้องดำเนินคดีในศาลทหาร ซึ่งอาจจะรวมทั้งคนที่พับกระดาษหรือปิดแสตมป์ด้วยก็ได้

เปรียบเทียบแล้วก็เห็นว่าข้อความในบทความบิดเบือนชัดเจนกว่าร้อยเท่าพันเท่า

โดยสรุป ผมเห็นว่ากำลังมีการเลือกปฏิบัติอย่างร้ายแรงในการทำประมชามติคราวนี้ ที่ทำให้เรื่องแย่ลงๆ ก็เพราะกกต.ไม่ทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมตรงไปตรงมา จ้องจับผิดแต่ฝ่ายเห็นต่าง ที่ควรจะทักท้วงฝ่ายคสช.ได้ก็ไม่ทักท้วง ปล่อยให้เรื่องที่เกี่ยวกับการลงประชามติกลายเป็๋นคดีความมั่นคงร้ายแรง

ปล่อยให้คสช.ลุแก่อำนาจคุกคามประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อขัดขวางปิดกั้นการแสดงความเห็นต่าง เพียงหวังจะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ผ่านให้ได้เท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.