กองทุนสัตว์ป่าโลกเรียกร้องให้ปิดฟาร์มเสือทั่วเอเชีย
กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) เรียกร้องให้รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียสั่งปิดฟาร์มเสือที่มีอยู่ราว 200 แห่งทั่วภูมิภาค เพื่อยุติการค้าชิ้นส่วนอวัยวะเสือในตลาดมืด และเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างแท้จริง
ข้อเรียกร้องดังกล่าว มีขึ้นเนื่องในวันเสือโลก (International Tiger Day) ในวันนี้ (29 ก.ค.) โดยกองทุนสัตว์ป่าโลกเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเสืออยู่ในฟาร์มเลี้ยงราว 8,000 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ฟาร์มเหล่านี้ตั้งอยู่ในจีน ลาว ไทย และเวียดนาม โดยจำนวนเสือที่เลี้ยงในฟาร์มมีมากกว่าเสือในธรรมชาติ ซึ่งทั่วโลกเหลืออยู่ราว 3,900 ตัว
กองทุนสัตว์ป่าโลกระบุว่า ฟาร์มเสือเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าชิ้นส่วนอวัยวะเสือที่ผิดกฎหมายมาโดยตลอด อย่างเช่นกรณีวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ. กาญจนบุรี ซึ่งฟาร์มเลี้ยงเสือภายในวัดถูกปิดลงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีการค้นพบซากลูกเสือและชิ้นส่วนอวัยวะของเสือจำนวนมาก ซึ่งกองทุนสัตว์ป่าโลกเน้นย้ำว่า การมีอยู่ของฟาร์มเสือนั้นทำให้ความพยายามอนุรักษ์เสือในธรรมชาติไม่เป็นผล และทำให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์จากเสือในท้องตลาดเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม การปิดฟาร์มเสือนั้นต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อเคลื่อนย้ายเสือไปยังที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสมตามธรรมชาติและพฤติกรรมของเสือที่เติบโตในฟาร์ม ซึ่งจะแตกต่างจากเสือที่เกิดและเติบโตในป่า
ทั้งนี้ เมื่อปี 2010 ชาติในเอเชีย 13 ชาติ ต่างเห็นพ้องที่จะช่วยกันเพิ่มจำนวนเสือในธรรมชาติขึ้น 2 เท่าจากจำนวนที่มีอยู่เดิมในทวีปเอเชีย โดยจะทำให้สำเร็จภายในปี 2022 ซึ่งตรงกับปีเสือของจีน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.