นักกิจกรรมรณรงค์เรื่องร่างรัฐธรรมนูญวันสุดท้ายก่อนลงประชามติ
กลุ่มนักกิจกรรมในนามคณะเห็นหมีแห่งชาติ (คหช.) นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นักเรียนชั้นมัธยมปลายซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ร่วมกันจัดกิจกรรมบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร วันนี้ (31 ก.ค.) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทำความเข้าใจเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาในร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ก่อนการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. และผู้จัดงานได้แจกจ่ายเอกสารให้แก่ประชาชนที่สนใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความเรียบร้อยตลอดช่วงเวลาจัดกิจกรรม
ก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ได้เคยให้สัมภาษณ์กับทางบีบีซีไทยว่าร่างรัฐธรรมนูญ 2559 หมวด 5 ว่าด้วยหน้าที่ของรัฐ มาตรา 54 ระบุว่ารัฐจะต้องจัดการศึกษาแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ ทำให้เด็กมีสิทธิเข้ารับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือใช้สิทธิเรียนฟรีได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมต้นเท่านั้น ต่างจากรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ระบุเพียงว่ารัฐจะต้องจัดการศึกษาแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 12 ปี จึงเปิดช่องให้เด็กใช้สิทธิเรียนฟรีได้ตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมัธยมปลายหรืออาชีวะ
วันเดียวกัน ขบวนการประชาธิปไตยใหม่อีสาน และกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่อีสาน ร่วมกันจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งก่อนเริ่มงานได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารบุกเข้าตรวจค้นสถานที่จัดงานและยึดเอกสารรณรงค์โหวตโน รวมถึงสั่งห้ามจัดกิจกรรม แต่ฝ่ายผู้จัดยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมกิจกรรม ทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์ภายในงาน
ด้านนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) เผยว่ากลุ่มผู้จัดงานมีความตั้งใจและพยายามกันมาก เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถรณรงค์เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญได้
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ ม.ขอนแก่น ระบุว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด และเป็นการกำหนดชะตากรรมการเมืองการปกครองของประเทศนี้ จึงถือเป็นกฎหมายที่จะกระทบกระเทือนต่อทุกคน หากมีคนบอกว่าจะเอารัฐธรรมนูญแบบนี้ และไม่เปิดให้มีการถกเถียง ก็เหมือนกับการกดคนไม่ให้พูด ซึ่งเป็นปัญหา และการเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยไปสู่ประชาธิปไตย ไม่อาจพึ่งพาเฉพาะกลุ่มคนสีใดสีหนึ่ง หรือนักกิจกรรม นักวิชาการ หรือเอ็นจีโอกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องใช้พลังทางสังคมมาช่วยกันผสานเพื่อความเปลี่ยนแปลง
ก่อนปิดงาน ทางกลุ่ม NDM และกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่อีสาน ได้ประกาศจุดยืนร่วมกันว่าจะไปลงคะแนนเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม






แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.