นายก ส.ท่องเที่ยวเชียงใหม่ชี้ ห้ามนั่งท้ายรถเล่นสงกรานต์ เชื่อเจตนาดี แต่ลดความสุข แนะยกเว้น-ผ่อนผัน
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายบุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศ ห้ามคนนั่งท้ายกระบะ และยืนท้ายรถ แต่อนุญาตให้บรรทุกโอ่ง และถังน้ำได้ ส่วนผู้โดยสารให้รัดเข็มขัด ตามคำสั่ง ม.44 ถ้าฝ่าฝืนมีโทษปรับนั้นว่า กฏหมายดังกล่าวถือเป็นเจตนาดี เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ แต่เชื่อว่าไม่สามารถใช้บังคับได้ เพราะขัดวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และวิถีชีวิตแบบล้านนา ที่ใช้รถกระบะบรรทุกโอ่งและถังน้ำ เล่นสาดน้ำในตัวเมืองเชียงใหม่ และรอบคูเมืองมากว่า 40-50 แล้ว ถ้าห้ามใช้รถกระบะสาดน้ำ เป็นการลดความสุข สนุกรื่นเริง ที่เคยเป็นมา เพราะกลัวถูกจับปรับ ทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวเสียไป
“รถกระบะที่เล่นสาดน้ำ ส่วนใหญ่ขับความเร็วต่ำ เนื่องจากจราจรหนาแน่นทำให้รถติดขัด เคลื่อนตัวได้ช้า ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุมากนัก ยกเว้นรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ดังนั้นอยากให้รัฐบาลดูข้อเท็จจริง ควรยกเว้นหรือผ่อนผันเมืองท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ เพราะกระทบต่อธุรกิจรถเช่า ทั้งรถกระบะรถสี่ล้อแดง รถสามล้อเครื่อง หรือตุ๊กตุ๊ก อาจทำให้ผู้ใช้บริการลดลง 50-60% เพราะไม่สามารถเล่นน้ำได้ นอกจากนี้มีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่มากเกินไป ส่วนใหญ่ใช้มาตรการจับปรับ เป็นการทำลายบรรยากาศท่องเที่ยว ควรใช้วิธีตักเตือนนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเมืองท่องเที่ยว” นายบุญทากล่าวและว่า ช่วงสงกรานต์คาดหวังกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น หลังซบเซาเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือโลว์ซีซั่น เนื่องจากอากาศร้อน และมีฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐาน อาจคึกคักเพียง 4-5 วัน หลังจากนั้น กลับมาซบเซาตามเดิม
ด้านนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกยังไม่มีคำสั่งห้ามใช้รถกระบะเล่นสาดน้ำอย่างเป็นทางการ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ส่วนมาตรการคาดเข้มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มวันที่ 5 เมษายนที่จะถึงนี้ เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ รถรับจ้างสาธารณะที่มีเข็มขัดนริภัย ต้องปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งดรัด โดยบูรณาการร่วมกับตำรวจ ทหาร ปกครอง ตั้งด่านตรวจเป็นระยะ ตามนโยบายรัฐบาล
แสดงความคิดเห็น