Posted: 09 Nov 2018 03:59 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Fri, 2018-11-09 18:59


กาญจนพงค์ รินสินธุ์ แปลและเรียบเรียง

หลังพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามลงโทษ 'จูหาว' ปัญญาชนชื่อดัง อดีต รมช.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฐานตีพิมพ์หนังสือขัดต่อแนวทางพรรค จนนำมาสู่การประกาศลาออกจากพรรคของจูหาว ตามมาด้วยนักเขียนและแวดวงปัญญาชนอื่นๆ พร้อมวิจารณ์พรรคที่เสื่อมถอยลง แต่การลาออกจากพรรคก็เต็มไปด้วยขั้นตอนซับซ้อนและในความเป็นจริงคำร้องขอลาออกก็มักไม่มีใครเดินเรื่องให้

ธงประจำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และธงชาติเวียดนาม
ที่มา: Dragfyre/Wikipedia


ศาสตราจารย์จูหาว (Chu Hảo) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรัฐบาลเวียดนาม และผู้ดำเนินการสำนักพิมพ์ชีทึก ที่มา: baogiaothong.vn

ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เกิดกระแสการเคลื่อนไหวเชิงต่อต้านต่อพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศเวียดนาม ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากการลงโทษปัญญาชนชื่อดัง ลุกลามไปสู่ความไม่พอใจในหมู่นักเขียนและปัญญาชนคนอื่นๆ ล่าสุดเกิดเป็นกระแสความสนใจต่อการลาออกจากพรรคในสังคมเวียดนาม รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสียของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เสื่อมถอยลงเรื่อยมา

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามแล้วยังไงหรือ?

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่มีสถานะถูกกฎหมายในประเทศ และเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มเดียวที่กุมอำนาจรัฐในการบริหารและปกครองประเทศ ความสำคัญของพรรคการเมืองนี้ในสายตาของชาวเวียดนามคือพรรคที่คุณูปการอย่างยิ่งต่อชาติเวียดนามของพวกเขา โดยในประวัติศาสตร์ของประเทศเวียดนามยุคเอกราช พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือตัวแสดงหลักในการปลดแอกฝั่งเหนือจากฝรั่งเศสและรวมประเทศด้วยการปลดแอกภาคใต้จากอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา

สำหรับวิธีการบริหารและปกครองประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามภายหลังการรวมประเทศ ในช่วงก่อนปี 1986 เวียดนามรวมศูนย์อำนาจทั้งในด้านการเมืองจากระบบพรรคเดียวและด้านเศรษฐกิจจากระบบวางแผนจากส่วนกลาง แต่เมื่อมาถึงจุดที่เศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลางใช้ไม่ได้ผล ปัญหาอาหารขาดแคลนและความยากจนที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงคลายมือด้านเศรษฐกิจด้วยนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1986 เปิดเสรีในด้านการค้าขาย ส่วนในด้านการเมืองก็ยังคงมีการกุมอำนาจโดยพรรคคอมมิวนิสต์และปราบปรามผู้ต่อต้านต่อไป

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

เดิมทีกระแสการแสดงออกในเชิงต่อต้านพรรคมีมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ในหลายกรณีผู้ต่อต้านถูกจับกุมและคุมขัง อย่างเช่นในปี 2017 เฉิ่นถิงา ถูกศาลตัดสินจำคุก 9 ปีด้วยข้อหา “โฆษณาชวนเชื่อเพื่อต่อต้านรัฐ” ภายใต้มาตรา 88 หรือกรณีของบล็อกเกอร์เหวียนหงอกพ์ญือกวิ่งญ์ที่ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีด้วยข้อหาเดียวกัน โดยที่ต่อมาเธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาในปีนี้ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตามกระแสความไม่พอใจของประชาชนก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีประกาศจากหน่วยงานคณะกรรมการตรวจสอบส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามว่าจะ “ตรวจสอบ” และ “ลงโทษทางวินัย” ต่อศาสตราจารย์ท่านหนึ่งที่ชื่อว่า จูหาว โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหัวหน้าบรรณาธิการสำนักพิมพ์ชีทึกซึ่งตีพิมพ์หนังสือมากมายที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดสังคมนิยม ประชาชนเวียดนามจำนวนไม่น้อยที่มองว่าเขาเป็นปัญญาชนที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนาสังคมของชาติ การประกาศของหน่วยงานรัฐครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นกระแสการถอนตัวจากพรรคระลอกใหม่ที่ผู้คนมากมายหลากหลายรุ่นจะออกมาถอนตัวกันอย่างเปิดเผย

โดยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 61 ทางบีบีซีได้รายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบส่วนกลางได้ประกาศตรวจสอบและลงโทษทางวินัยต่อศาสตราจารย์จูหาว ด้วยข้อหาที่ฝ่ายทางการกล่าวว่าเป็น “ความผิดร้ายแรง” โดยมีเนื้อหาในประกาศว่า

“ด้วยตำแหน่งหน้าที่หัวหน้ากองบรรณาธิการ สหายจูหาวมีส่วนรับผิดชอบต่อการที่สำนักพิมพ์ชีทึกตีพิมพ์หนังสือจำนวนหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาขัดต่อมุมมอง นโยบาย แนวทางของพรรค และรัฐบาล ฝ่าฝืนกฎหมายการพิมพ์ ซึ่งจะถูกทางการควบคุม เรียกคืน และทำลายทิ้ง….”

“ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สหายได้ทำความผิดจากการกระทำการอันสมาชิกพรรคมิพึงกระทำ มีข้อเขียนและการแสดงความคิดเห็นที่มีเนื้อหาขัดต่อแผนแนวทางการเมือง ระเบียบพรรค.... “กระทำโดยพลการ” “ดัดแปลงโดยพลการ” ….ส่งอิทธิพลความคิดที่เลวร้ายต่อสังคม ถึงขั้นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบและลงโทษทางวินัย”


ในเวลาต่อมาหลังจากที่มีการประกาศจากคณะกรรมการดังกล่าว ทางฝ่ายศาสตราจารย์จูหาวก็ได้เขียนจดหมายแสดงความจำนงที่จะถอนตัวออกจากพรรคพร้อมลงชื่อโดยระบุว่าเป็นวันที่ 26 ตุลาคม 61 อย่างไรก็ตามจดหมายดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊กในอีก 3 วันต่อมา โดยเขาได้แสดงความจำนงขอให้หน่วยงานของพรรคนั้นลบชื่อของตนออกจากรายชื่อสมาชิก ศาสตราจารย์จูหาวยังได้แสดงความคิดเห็นต่อคำประกาศของรัฐครั้งนี้ว่าเป็นการกล่าวหาแต่ฝ่ายเดียวและไม่มีการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า

และในวันที่ 26 ตุลาคม เช่นเดียวกันที่เริ่มมีบรรดาปัญญาชนชาวเวียดนามออกมาแสดงท่าทีต่อต้านคำประกาศลงโทษศาสตราจารย์จูหาว โดยนักเขียนที่รู้จักกันในชื่อ เวียนหงอกพ์ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาว่า ขอประกาศถอนตัวออกพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอย่างเป็นทางการ เขายังได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกำลังเสื่อมถอยลง พรรคกำลังทำร้ายประชาชนและประเทศชาติ และการลงโทษต่อศาสตราจารย์จูหาวก็ยิ่งสะท้อนความพยายามที่จะปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน เป็นการเอื้อให้การหาประโยชน์ที่เห็นแก่ตัว และรุกล้ำสิทธิในการใช้ชีวิตและพัฒนาตัวเองของประชาชน

ทางด้าน รศ.ดร.หมากวันชางอาจารย์ประจำสถาบันวิทยาศาสตร์การศึกษาเวียดนาม ก็ได้ประกาศถอนตัวเพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างศาสตราจารย์จูหาว พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นว่า ในหลายปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์และสังคมเวียดนามเริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ

นอกจากปัญญาชนชาวเวียดนามทั้ง 2 คนที่ประกาศถอนตัวออกจากพรรคแล้ว ในวันที่ 27 ตุลาคม บนเฟซบุ๊กก็มีผู้ใช้ชาวเวียดนามออกมาประกาศถอนตัวออกจากพรรคอย่างเปิดเผย นายทหารยศพันโทชื่อว่าเฉิ่นนาม ดร. เฉินแทงญ์เตวิ๊น และวิศวกรหว่างเตี๊ยนเกื่อง รวมถึงคนอื่นๆ อีกราว 20 คน ออกมาประกาศถอนตัวออกจากพรรค บางรายได้แสดงความเห็นว่า ตนนั้นออกจากพรรคและไม่สนใจกิจกรรมของพรรคมานานแล้ว แต่ตอนนี้ขอประกาศออกจากพรรคอย่างเป็นทางการ ไม่เกี่ยวข้องกับทางพรรคอีกต่อไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 61 อดีตนักแสดงชื่อดัง กีมจี ประกาศถอนตัวออกจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอย่างเปิดเผยบนเฟซบุ๊ค โดยเธอได้แสดงความคิดเห็นอย่างวิพากษ์วิจารณ์ต่อมาพรรคว่า อันที่จริงนั้นเธอควรจะประกาศถอนตัวออกจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่เหวียนฟู้ฉ่องม์ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 2 เพราะเธอมองว่าแนวคิดของเหวียนฟู้ฉ่องม์ที่ยึดมั่นหลักการสังคมนิยมนั้น มืดมนและไร้อนาคต

เธอผิดหวังกับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่ปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมืองกับพรรค เธอพยายามรักษาท่าทีทางการเมืองตามคำแนะนำของคนรอบข้างที่อยากให้เธออยู่ช่วยเหลือคนดีๆ ในพรรค เธอยังเคยหวังว่ากิจกรรมทางสังคมต่างๆ จะช่วยกระตุ้นสามัญสำนึกของผู้มีอำนาจให้ปรับปรุงตัวและเอาใจใส่ประชาชนมากขึ้น ทว่าเธอกลับผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นปัญญาชนและผู้คนทั่วไปประสบปัญหาจากการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เธอไม่อาจทนได้อีกต่อไปคือเหตุการณ์ที่ทางการประกาศลงโทษศาสตราจารย์จูหาว เธอมองว่านี่เป็นการใส่ร้ายต่อผู้ที่ทุ่มเทต่อการพัฒนาประเทศ เป็นการใส่ร้ายต่อเสาหลักสำคัญของประเทศที่เธอและปัญญาชนรวมถึงประชาชนคนอื่นต่างให้ความเคารพ ในสายตาของเธอนั้น หลังปี 1975 เหล่าผู้นำในพรรคก็เริ่มมีการทุจริต หย่อนยาน และสร้างความลำบากให้กับผู้คนและประเทศชาติเสียด้วยซ้ำ

แล้วการลาออกจากพรรคยากง่ายเพียงใด?

ข้อมูลจากทางบีบีซีภาคภาษาเวียดนาม ที่เผยแพร่เมื่อ 31 ตุลาคม ระบุว่า ในเชิงหลักการนั้น การออกจากพรรคจะมีกฎเกณฑ์ที่ระบุอยู่ว่าหากละทิ้งหน้าที่หรือไม่จ่ายค่าธรรมเนียมตามเวลาที่กำหนดจะถูกขับออกจากพรรค ส่วนการยื่นหนังสือจะมีการสอบประวัติและส่งหนังสือไปให้เบื้องบนพิจารณาอนุมัติ
แต่จากปากคำของชาวเวียดนามที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการถอนตัวออกจากพรรคนั้น หลายรายยอมรับว่าเลือกที่จะออกมาเองโดยไม่มีการผ่านกระบวนการใดๆ ด้วยเหตุที่วิธีการออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแบบทางการนั้น เต็มไปด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากรวมไปถึงในความเป็นจริงก็มักจะไม่ได้รับการดำเนินการ

กรณีตัวอย่างของศาสตราจารย์เหวียนดิ่งญ์ก๊งม์ เขาส่งเลือกที่จะส่งหนังสือเพื่อยื่นลาออกจากพรรค และแม้ว่ากระบวนการดังกล่าวจะผ่านการประชุมครั้งแล้วครั้งเล่า กระนั้นตลอดทั้งปีก็ยังไม่มีใครอนุมัติการลาออกของเขา ด้วยความยุ่งยากนี้เอง หลายคนจึงเลือกทางอื่นที่จะออกจากพรรค ในกรณีของ รศ.ดร.หมากวันชางก่อนหน้าที่จะออกมาประกาศถอนตัวอย่างเป็นทางการเพื่อแสดงจุดยืนอยู่ข้างศาสตราจารย์จูหาวที่ถูกพรรคกล่าวหา เขาเองถอนตัวออกมาก่อนแล้ว เป็นการถอนตัวออกมาเฉยๆ โดยไม่ได้ยื่นเอกสารอะไร โดยเขาได้ให้เหตุผลว่าเพื่อไม่เป็นการสร้างความยุ่งยาก

วิธีการออกมาเฉยๆ เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บางรายก็แสดงความคิดเห็นว่า ในกรณีของตนนั้น แจ้งกับทางการก็ออกจากพรรคได้ง่ายดายเหมือนกัน โดยร้อยโทเหวียนฮื้วเฮี้ยว ได้ยอมรับว่าหากมองในภาพรวมนั้น การออกจากพรรคดูเป็นเรื่องยาก แต่ก็มีความยากง่ายก็แตกต่างไปตามแต่ละท้องที่ ในช่วงที่เขาปลดประจำการออกจากกองทัพและมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาชวนให้ทำงานต่อที่พรรคนั้น เขาได้ได้ปฏิเสธไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ตกลงทันที
ความคิดเห็นของประชาชนต่อการออกจากพรรค

ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่มีการประกาศถอนตัวออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ของศาสตราจารย์จูหาว ความเห็นต่างๆ ที่เห็นอกเห็นใจเขาก็คะยั้นคะยอให้เขาออกจากพรรคพร้อมทั้งวิจารณ์ข้อเสียของพรรคที่พวกเขามองว่ากำลังอยู่ในภาวะเสื่อมถอยและเต็มไปด้วยข้อจำกัด

โห่เบิ๊ตเควิ๊ต นักข่าวชาวเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า สิ่งสำคัญสำหรับศาสตราจารย์จูหาวตอนนี้คือ การลาออกจากพรรค โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า เดิมทีศาสตราจารย์จูหาวนั้นเป็นปัญญาชน มีหน้าที่จะต้องทุ่มเทให้กับชาติอยู่แล้ว แม้หนังสือที่ตีพิมพ์ออกมาจะมีเนื้อหาขัดต่อหลักการของพรรค แต่ก็มีประโยชน์ต่อสังคม งานของศาสตราจารย์นั้นจำเป็นต้องมีอิสระ ไม่ขึ้นต่อกลุ่มการเมืองใดๆ แต่การอยู่ในพรรคนั้นกลับเป็นสิ่งที่จำกัดอิสรภาพ

ทนายความที่มีชื่อว่า ลฺเวินเล เองก็ได้ให้ความเห็นว่า หากศาสตราจารย์จูหาวออกจากพรรค เขาจะเข้มแข็งขึ้นด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชนและไม่ถูกตีกรอบจากพรรคอีกต่อไป และลฺเวินเลก็ได้วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ว่า การประกาศลงโทษศาสตราจารย์จูหาวก็มีแต่จะทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เสื่อมถอยลง
ด้านความเห็นของชาวเวียดนามที่มีต่อการถอนตัวออกจากพรรคของกีมจีเพื่อแสดงจุดยืนช่วยเหลือศาสตราจารย์จูหาว ก็หลากหลายมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยผู้ที่เห็นด้วยก็แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจที่กล้าหาญของเธอ ในขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่าเธอไม่รักชาติ ทรยศต่อพรรคที่ช่วยปลดแอกเวียดนาม และเอะอะเกินไปที่แสดงออกเช่นนี้

นอกจากนี้การออกจากพรรคของศาสตราจารย์จูหาว ยังก่อให้เกิดกระแสการพูดถึงและตั้งคำถามต่อ “การออกจากพรรค” รวมไปถึงความน่าเชื่อถือของพรรคในแวดวงสื่ออีกด้วย ทาง BBC ภาคภาษาเวียดนามได้เผยแพร่บทความเรื่อง “Bỏ Đảng, bỏ Đoàn sẽ thành phong trào?” โดยมีเนื้อหาสังเกตกระแสการออกจากพรรคของผู้คนว่าจะมีผลต่อสังคมในระดับไหน และเผยแพร่ความคิดเห็นของผู้ที่ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่มักมีเหตุจากการที่พวกเขารู้สึกผิดหวังกับพรรค และอีกบทความหนึ่งเรื่อง “ Vụ GS Chu Hảo khiến sách về dân chủ 'cháy hàng'” ซึ่งมีเป็นการสัมภาษณ์ประธานกลุ่มวิชาการกลุ่มหนึ่งในเวียดนามโดยมีเนื้อความกล่าวถึงปัญหาการปิดกั้นการเรียนรู้ในสังคมโดยภาครัฐ

ทางด้านทีมข่าว Dân Làm Báo ซึ่งเป็นสำนักข่าวที่มุ่งวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์ ก็ได้เผยแพร่บทความ “Có thể diệt Chu Hảo, nhưng đối thoại thì không” ได้หยิบยกเรื่องราวของศาสตราจารย์จูหาวมาวิพากษ์วิจารณ์การพยายามปราบปรามเสียงคัดค้านโดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และวิจารณ์การปกครองผู้นำคนสำคัญในปัจจุบันอย่างเหวียนฟูจ่องก์ ส่วนอีกบทความหนึ่งที่ชื่อว่า “Từ bỏ và dấn thân” ที่ได้เสนอว่า “พรรคกับประเทศเป็นสองสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่รายงานว่าทางรัฐบาลจะลงโทษศาสตราจารย์จูหาวอย่างไรหรือเพียงแค่ประกาศเท่านั้น



แปลและเรียบเรียงจาก

BBC News tiếng Việt.(2018). Bỏ Đảng, bỏ Đoàn sẽ thành phong trào?. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-46014980
BBC News tiếng Việt.(2018). GS Chu Hảo bị đề nghị kỷ luật vì 'tự diễn biến. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-45983080
BBC News tiếng Việt.(2018). GS Chu Hảo tuyên bố 'từ bỏ' Đảng Cộng sản VN. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-46021990
BBC News tiếng Việt.(2018). Nghệ sỹ Kim Chi tuyên bố bỏ Đảng Cộng sản. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-46093522
BBC News tiếng Việt.(2018). Nhà văn Nguyên Ngọc và một số các trí thức 'bỏ Đảng'. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-46001383
BBC News tiếng Việt.(2018). Vụ GS Chu Hảo khiến sách về dân chủ 'cháy hàng'. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/vietnam-46097008
BBC News tiếng Việt.(2018). Xin ra khỏi Đảng CSVN có dễ không?. [Blog Post]. Retrieved from: https://www.bbc.com/vietnamese/46027637
Jasmine Tran. (2018). Vietnamese prisoner of conscience Trần Thị Nga beaten and threatened with death. [Blog Post]. Retrieved from http://danlambaovn.blogspot.com/2018/08/vietnamese-prisoner-of-conscience-tran.html
Bùi Quang Vơm. (2018). Có thể diệt Chu Hảo, nhưng đối thoại thì không . [Blog Post]. Retrieved from: http://danlambaovn.blogspot.com/2018/10/co-diet-chu-hao-nhung-oi-thoai-thi-khong.html
Huỳnh Anh Tú. (2018). Từ bỏ và dấn thân. [Blog Post]. Retrieved from: http://danlambaovn.blogspot.com/2018/10/tu-bo-va-dan-than.html

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.