ถ้าเรามองย้อนสถานการณ์ปี 49 ถึงปัจจุบัน เราจะเห็นว่าจากพันธมิตรสู่ม็อบนกหวีด มีคน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือภาคประชาชน NGO ที่ไม่พอใจ "ระบอบทักษิณ" ว่าอำนาจนิยม ออกมาไล่ทักษิณ แต่พอชู ม.7 ส่วนหนึ่งถอย (นับผมด้วยก็ได้ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ชอบระบอบทักกี้) ส่วนหนึ่งยังอยู่ กลุ่มที่ 2 คือคนชั้นกลางในเมืองที่เราเรียกว่า "สลิ่ม" ทัศนะจารีตนิยม เชื่อเรื่องล้มเจ้า มีทัศนะตื้นๆ "ปราบโกง" ซึ่งพวกนี้เพิ่มขึ้นมากในม็อบนกหวีด รวมทั้งดาราเซเลบส์ไฮโซ
2 ปีในยุค คสช. ท่าทีของกลุ่มแรกเปลี่ยนไปชัดเจน กลับกลายมาไม่รับร่าง รธน. หลังพบว่ารัฐทหารอำนาจนิยมยิ่งกว่าทักษิณ (จับมือทุนนิยมประชารัฐอีกต่างหาก) อาจเหลือแค่บางคน เช่นยะใส ที่กลายเป็นขวัญใจแม่ยกสลิ่ม
ขณะที่พวกสลิ่ม กลายเป็นประยุดนิยมหัวปักหัวปำ โดยฐานะทางชนชั้นก็ไม่เคยแยแสพวก NGO ต้านเขื่อนต้านโรงไฟฟ้าค้านไล่คนจนออกจากป่า ฯลฯ อยู่แล้ว 2 กลุ่มนี้มาถึงจุดต่างสำคัญแม้ยังมีบางอย่างร่วมกันอยู่
สำหรับเรา ท่าทีต่อกลุ่มแรก ก็คือวันนี้มีจุดร่วม แต่ยังไงไม่ว่าวันนี้วันหน้าก็มีจุดต่าง ฉะนั้นหนึ่งคือยินดีอ้าแขนรับ ร่วมมือกัน แต่สอง ก็ต้องตบหัวว่า พวกเมริงปลุกรัฐประหารปลุกสลิ่มขึ้นมาคลั่งไม่ใช่เรอะ เป็นไงล่ะ รู้ตัวเสียมั่งว่าผิด อย่าลอยหน้าลอยตาเป็นพระเอกนางเอกสถานเดียว
แสดงความคิดเห็น