พยานนาทีวิสามัญฯ โผล่เพิ่ม เผย 'ชัยภูมิ' มือเปล่าโดนยัดยา มทภ.3 ยันภาพจากกล้องยิงป้องกันตัว

Posted: 23 Mar 2017 05:58 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

ผู้เห็นเหตุการณ์วิสามัญฯ 'ชัยภูมิ ป่าแส' โผล่เพิ่ม ชี้ไม่มีระเบิดติดตัว - โดนทหารยัดยา ระบุทหารลากตัว ทุบตี กระชากเสื้อ ถีบหน้าอก ก่อนผู้ตายวิ่งหนี แต่ทหารบอก “ยิงมันเลยๆ” ด้านแม่ทัพภาคที่ 3 ยืนยัน ภาพจากกล้องวงจรปิด


ชัยภูมิ ป่าแส (ที่มา: แฟ้มภาพ/flickr prachatai)

23 มี.ค. 2560 สืบเนื่องจากเหตุการณ์ทหารวิสามัญฆาตกรรม ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติการณ์การเสียชีวิตของชัยภูมิจากทั้งทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมไปถึงพยานในเหตุการณ์หลายปาก (อ่านที่นี่)
ผู้เห็นเหตุการณ์เผย ไร้อาวุธ ถูกซ้อม - ยัดยา ได้ยินทหารพูด “ยิงมันเลยๆ”

วอยซ์ ทีวี ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์คนจากกลุ่มชาติพันธุ์ลีซอที่เห็นเหตุการณ์ โดยมีใจความ ดังนี้ (ดูวิดีโอตัวเต็ม คลิกที่นี่)


“มีเก๋งดำ มุ่งมาจากเมืองนะ รถจอดแล้วทหารบอกลงมา จะค้นในรถ น้องคนนั้นบอกทหารว่าผมไม่ผิด ลงไปทำไม จะตรวจก็ตรวจในรถก็พอ แล้วก็ขัดแย้งกัน”

“แล้วทีนี้น้องไม่ยอมลง ทหารเลยกระชากคอลงมา แล้วก็ตี สามคนรุมตี คือว่า ให้ชัยภูมินอนคว่ำ แล้วตีข้างหลัง เอากำปั้นตีหัว เอาตีนถีบ แล้วก็ยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด ปืนเอ็ม16 พอยิงปุ๊บ ทหารลูกน้องก็แห่กันวิ่งมาอีกสามเป็นหกคน”
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว

ชายผู้เห็นเหตุการณ์พูดเป็นภาษาถิ่น ซึ่งพยานอีกคน ได้แปลเป็นใจความว่า “ทั้งตีทั้งถีบ กระชากเสื้อขึ้นมา ต่อยหน้า แล้วมือข้างซ้ายดึงผม ถีบตรงหน้าอก น้องกระเด็นหงายท้อง พอน้องลุกขึ้นก็วิ่งหนี แล้วระหว่างที่น้องชัยภูมิหนี เขา [ทหาร] กระชากไม่ทัน ทหารคนนั้นล้มหงายท้อง แล้วมันจะมีศาลาที่สามแยก น้องหนีไปทางนั้น แต่ทหารที่ไม่มีอาวุธทั้งสองคนก็ล้มเหมือนกัน ทหารอีกคน ตีนไปถูอะไรไม่รู้เลือดออก ทหารที่ไล่ชัยภูมิใส่เสื้อแขนสั้น แล้วพอหนีไปถึงที่หน้าบ้านตำรวจ ก็มีทหารพูดว่า ยิงมันเลยๆ”


“ทหารก็วิ่งมาอีกสองคน ถือปืนมาแล้วก็ยิงไปสามนัด แล้วทีนี้ลีซอก็แห่กันไปดู ก็บอกว่า ไม่ต้องมาดูๆ ยังไม่ตายๆ แล้วก็เอามือไปปั๊มหัวใจ”
ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว

ผู้เห็นเหตุการณ์ได้กล่าวว่า ชัยภูมิไม่มีระเบิด ไม่มีอาวุธติดตัวสักอย่าง เพราะตอนนั้นชัยภูมิวิ่งหนีอย่างเดียว ไม่มีการขว้างปาระเบิดแต่อย่างใด


“ผู้ตายไม่มีอะไรในมือซักอย่าง น้องกลัวมาก ไม่ได้หันกลับมาอีกเลย วิ่งหน้าอย่างเดียว”


“น้องไม่ต่อสู้กับทหาร น้องก็นอนอยู่ ทหารเขาก็ตี เอาเท้าถีบตรงที่ท้อง พอน้องชัยภูมิโดนถีบตรงหน้าอกกระเด็นไป พอลุกขึ้นมาแล้วก็วิ่งหนี ตอนน้องหนีทหารยิงปืนสามนัด น้องก็ล้ม” ชายผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว

หลังจากนาทีสังหารชัยภูมิ หญิงผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เห็นทหารเปิดกระโปรงรถ ยัดยาบ้าลงไป รวมถึงนำมีดไปถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน


“พอน้องชัยภูมิตายปุ๊บ ทหารก็เอากระเป๋าของน้องไปที่ห้องทหาร อีกซักพักก็เอากระเป๋าใบนั้นกลับมาไว้ที่รถ คนที่นี่เห็นทหารยัดยาบ้าใส่ แล้วมีมีดอันนึงที่ทหารถือไว้ แล้วก็ไปหลังรถแล้วก็ถ่ายรูป”

“ยาบ้านี่เอามาจากไหนไม่รู้ แต่รู้สึกว่าเอามาจากที่ห้องของทหาร เอามาแล้วก็เอามาใส่ไว้ที่หน้ารถ สีเหลืองๆ ม้วนๆมา ก็ห่อไว้ คนหนึ่งเปิดกระโปรงหน้ารถ อีกคนหนึ่งใส่ยาบ้าส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งทหารไว้ไหนก็ไม่รู้ จากนั้นก็เอามีดมาถ่ายรูป” หญิงผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว
มทภ.3 โต้ ทหารยิงสมควรแล้ว พิสูจน์วงจรปิด “เป็นผมอาจกดออโต้ไปแล้วก็ได้”


วันเดียวกัน มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า การตั้งด่านเป็นการตั้งด่านปรกติ สามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด CCTV เจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าไปค้นรถไม่ได้ถืออาวุธ มีเพียงชุดรักษาความปลอดภัยที่ถืออาวุธเข้าเวรยาม โดยในวันนั้นได้ทำการตรวจค้นตามปรกติ แต่ชัยภูมิมีพิรุธ เมื่อถูกเชิญลงจากรถได้วิ่งหนีและพยายามขว้างระเบิดมา เจ้าหน้าที่จึงต้องยิงป้องกันตัว โดยเล็งไปที่แขนแต่เฉียดไปโดนจุดสำคัญ


พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ (ที่มา: ภาพข่าวประชาสัมพันธ์ กองทัพบก ภาคที่ 3)

พล.ท.วิจักขฐ์ ยังกล่าวว่า ตนเชื่อว่าชัยภูมิค้ายาจริง เนื่องจากหลักฐานเส้นทางการเงินและพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมือเติบของชัยภูมิทั้งที่ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นนักเคลื่อนไหว รวมถึงมีหลักฐานว่าชัยภูมิเกี่ยวพันกับการค้ายามาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 แล้ว แม่ทัพภาคที่ 3 วอนสังคม ให้ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่จะดูแลครอบครัวผู้สูญเสียเป็นอย่างดี ทั้งยังกล่าวในมุมของทหารว่า “ปกติการตัดสินใจของพลทหาร ถ้าเป็นผมในเวลานั้นอาจกดออโต้ไปแล้วก็ได้”

“คดีนี้ว่าด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใส่ร้าย รวมทั้งผู้บังคับหน่วยสอนลูกน้องดี มีการฝึกอบรม ทบทวนการตรวจค้นเสมอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ยิง ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เขามีความตั้งใจทำงาน อย่างไรก็ตาม ผมสั่งให้ดูแลขวัญกำลังใจ เพราะเขาตั้งใจทำงาน แต่กลับกลายเป็นคนร้าย ต่อไปจะไม่มีเจ้าหน้าที่กล้าปะทะ ส่วนตัวคิดว่าการกระทำดังกล่าวสมเหตุสมผล เพราะเป็นการป้องกันตนเอง โดยพยายามยิงจุดไม่สำคัญ แต่ก็เกิดความสูญเสีย” พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าว

หมายเหตุ : ประชาไทได้ปรับแก้พาดหัวจากเดิม "พยานนาทีวิสามัญฯ โผล่เพิ่ม เผย 'ชัยภูมิ' มือเปล่าโดนยัดยา มทภ.3 ยันภาพจากกล้องชี้สมควรยิง" เป็น "พยานนาทีวิสามัญฯ โผล่เพิ่ม เผย 'ชัยภูมิ' มือเปล่าโดนยัดยา มทภ.3 ยันภาพจากกล้องยิงป้องกันตัว" อย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เมื่อเวลา 1.15 น. 24 มี.ค.2560

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.