"ผอ.พศ."แจ้งจับคนอัดคลิป-ตัดต่อเสียง ปมตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายลั่นไม่เว้นแม้"พุทธะอิสระ"หากทำผิดยันไม่ใช่ลูกน้อง ไม่เคยเป็นลูกศิษย์และไม่เคยเดินตามระบุไม่มีใครมาสั่งให้ทำซ้ายทำขวาได้คนเป็นนายคือประชาชน พุธที่ 22 มีนาคม 2560 เวลา 12.36 น.

จากกรณีได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊กในเพจ ตื่นเถิดชาวพุทธ โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นภาพพระพุทธะอิสระเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม กำลังสนทนาทางโทรศัพท์ กับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยทางพระพุทธะอิสระได้สอบถามถึงความคืบหน้าการดำเนินงานกรณีวัดพระธรรมกาย ซึ่งทาง พ.ต.ท.พงศ์พร ได้ตอบว่า ขณะนี้ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าคณะ จ.ปทุมธานี เพิ่มเติม เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24ว่า ด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ พิจารณาในการแต่งตั้งพระจากวัดอื่นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อความสะดวกในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องต่างๆ ซึ่งทางพระพุทธะอิสระก็ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ ผอ.พศ.ทำถูกแล้ว และอยากให้มีการแจ้งเจ้าคณะ จ.ปทุมธานี ด้วยว่า ขอให้ใช้อำนาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อบริหารงานวัดพระธรรมกายในช่วงที่กำลังมีการดำเนินคดีต่างๆ เมื่อสิ้นสุดคดีแล้ว จึงค่อยมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสต่อไป ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าวมีความยาวประมาณ 7 นาที

โดยเรื่องนี้ทางพ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวยอมรับว่า ตนเองไม่รู้ตัวเลยว่าทางพระพุทธะอิสระอัดคลิประหว่างสนทนากับตนเอง ส่วนถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่ถูกอัดคลิปแล้วเรื่องบานปลาย ในเรื่องของการข่าวคงต้องดูว่าข่าวนี้ใครได้ใครเสีย ใครกำลังจะเสียประโยชน์และจะทำให้คนที่เป็นกลางเสียเครดิตอันนี้ในทางหลักสากล และในหลักของทางพุทธกาลมีกาลามสูตรนั่้นก็คืออย่าเชื่อจนกว่าจะรู้จริง เห็นแจ้งแล้วพิจารณาด้วยเหตุผล ลองพิจารณาเนื้อความที่อยู่ในคลิปตรงกันหรือไม่

เมื่อถามว่าหลวงปู่พุทธะอิสระโทรศัพท์มาคุยเรื่องอะไร พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า โดยสรุปเรื่องนี้ข่าวที่ตนเองให้ท่านก็ให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าวที่โทรฯมารับกันเป็นร้อยๆสาย ไม่ได้มีอะไรพิเศษกับหลวงปู่พุทธะอิสระ และเรื่องการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสตนเองได้แถลงไปเมื่อสองวันที่แล้ว ตั้งแต่เย็นวันจันทร์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับท่านและตนเองไม่ได้เป็นลูกน้องหรือลูกศิษย์ของหลวงปู่พุทธะอิสระเลย เพราะฉนั้นดูจากเนื้อความในคลิปไม่ตรงกับที่เขียน ซึ่งในวันนั้นทางพุทธะอิสระได้ถามตนเองหลายเรื่องเหมือนกับนักข่าวถามว่าเราทำไปถึงขั้นไหน ตนก็บอกรายละเอียดไปโดยในส่วนขั้นตอนสุดท้ายบอกว่าได้ส่งไปที่เจ้าคณะหนกลาง และส่งไปยังเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และบางเรื่องได้ส่งไปถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ส่วนกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ก็คือการแต่งตั้งเจ้าอาวาสตนได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีตั้งแต่วันที่20 มี.ค.และหลวงปู่พุทธะอิสระท่านก็ได้โทรฯมาหาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. และเรื่องนี้ทำไปไม่ได้เกี่ยวกับการสั่งการอะไรของพระพุทธะอิสระและได้เรียนกับทุกคนที่อยากรู้ ถ้าไม่ให้ตนให้ข่าวเลยสังคมก็จะรู้ความคืบหน้าได้อย่างไร

"ทีนี้ลองพิจารณาเรื่องที่ผมเหมือนกับเป็นลูกน้องของพระพุทธะอิสระ ในความเป็นจริงผมได้รับการแต่งตั้งมาจากรัฐบาลไม่ใช่แต่งตั้งจากท่านและผมไม่ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน ไม่เคยเดินตามท่าน"พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการที่ถูกแอบอัดคลิปไว้ พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า เมื่่อไถ่ถามตนก็ให้ข้อเท็จจริงตามที่ให้กับนักข่าวเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับอะไร แต่เมื่อมีคนอัดคลิปเสียงไปเผยแพร่แล้วไปลงแบบนี้มันก็เกิดความเสียหายแล้วก็ไม่นึกว่าจะทำแบบนี้ด้วย แต่อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้ตนเองจะให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีซึ่งมันอาจจะเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ต่อข้อถามว่าจะดำเนินคดีกับหลวงปู่พุทธะอิสระใช่หรือไม่ พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด สำหรับกรณีนี้จะเป็น 2 ประเด็นคือคนแอบอัดคลิปและนำไปเผยแพร่ก่อน และประเด็นที่สองคือเอาคลิปไปตัดต่อข้อความในเชิงวิพากษ์วิจารณ์นั้น คำร้องทุกข์ต้องประกอบด้วยการกระทำผิดและพฤติการณ์ ความเสียหายก็คือชื่อเสียงและผู้กระทำผิดเท่าที่จะบอกได้เราก็บอกไปรวมๆคือทั้งหมดกับพวก คือจะเอาผิดทั้งคนแอบอัดและตัดต่อ

พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวด้วยว่า แต่ประเด็นคือว่าเรื่องนี้ที่มีการดิสเครดิตคือหนึ่ง ให้รู้ว่าตนเองอยู่ภายใต้อาณัติของหลวงปู่พุทธะอิสระ สองตนเป็นข้าราชการกินเงินเดือนของแผ่นดินใส่สีกากี สีกากีหมายถึงแผ่นดิน ตนบอกตัวเองว่าการแต่งตั้งทำหน้าที่ครั้งนี้เพื่อมาทำงานให้กับแผ่นดิน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับสังคมในเรื่องศาสนา ดังนั้นคนที่เป็นนายของตนคือประชาชนและสิ่งที่ตนต้องทำคือหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนดให้ตนเองต้องทำ ไม่มีใครเป็นนายจะมาสั่งให้ทำซ้ายหันขวาหันได้ งานของตนจะทำในสิ่งที่กฎหมายเปิดช่องให้ทำและต้องทำตามนั้น อย่างไรก็ตามถ้าสงฆ์ทำผิดหากมีหลักฐานไม่ว่าฝ่ายใดตนต้องดำเนินการกับทุกฝ่ายไม่เว้นกระทั่งหลวงปู่พุทธะอิสระ.

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.