Posted: 18 Jan 2019 07:45 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Fri, 2019-01-18 22:45


ใบตองแห้ง

ทําไมผู้บัญชาการทหารบก ต้องกล่าวหาคนอยากเลือกตั้ง “โดนสั่งให้มาทำอย่างนี้” “เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย” แล้วนี่เป็นหน้าที่ของท่านหรือไม่ ที่ออกมาให้ร้ายคนเห็นต่างจากรัฐบาล

ใช่เลย ทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล แบบสั่งใช้กระสุนจริงก็ใช้จริงใช้จัง แต่ทีมีม็อบปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง ผู้บัญชาการทหารบกยุคนั้นน่ารักจัง วางตัวเป็นกลาง ไม่ให้ร้ายคนเห็นต่างจากรัฐบาลเลยสักนิด ทั้งที่พฤติกรรมล้ำเส้นเห็นต่าง ไปถึงขั้นก่อจลาจลล้มล้างระบอบการปกครอง จนกระทั่งท่านตั้งตัวเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ล้มล้างรัฐธรรมนูญเสียเอง

วันนี้ ทหารปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล ที่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือทหารออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง เพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหารของพวกตัว มันกลายเป็นคำถามที่แยกคำตอบไม่ได้

แต่ช่างเป็นตรรกะย้อนแย้งเสียกระไร ที่โฆษก คสช. โฆษกคณะรัฐประหาร โฆษกคณะเผด็จการผู้ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย กลับกล้าๆ ชี้หน้าคนอยากเลือกตั้งว่า “วุฒิภาวะทางประชาธิปไตยบกพร่อง”

หรือนี่คือทหารไทย 86 ปี ทำรัฐประหาร 13 ครั้ง ฉีกกฎหมายสูงสุด นิรโทษกรรมตัวเอง แล้วสั่งสอนคนไทยให้เคารพกฎหมาย ด่าคนไทยไม่มีวินัย ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักประชาธิปไตย

“ถ้าทุกคนไม่ล้ำเส้น อยู่ในกรอบของประชาธิปไตย” เคยมีหรือ ประชาชนล้ำเส้นทหาร เห็นแต่ปืนรถถังล้ำเส้นสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตย ตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูกและอาจสืบต่อไปถึงรุ่นหลาน

ประชาชนตายเป็นเบือมากี่ครั้ง ก็นิรโทษกรรม คนไทยด้วยกัน หยวนๆ ลอยนวล

รัฐประหารครั้งนี้อยู่มา 5 ปีเพิ่งจะเข้าสู่เลือกตั้ง พอมีบางพรรคการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ทหาร เสนอนโยบายปฏิรูปกองทัพ ซึ่งแน่ละ บางรายก็พูดโคตรมันส์ สะใจผู้ชมออนไลน์ กองทัพก็ออกมาเต้น อย่าให้ร้ายป้ายสี เป็นตัวอย่างไม่ดีแก่เด็กเยาวชน ทหารไม่ใช่คู่ขัดแย้ง

จริงเหรอ เผด็จการมา 5 ปี ทหารไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แล้วทหารเป็นอะไร เป็นผู้มีพระคุณอย่างล้นเหลือต่อประเทศชาติและประชาชนไทย? ถ้าไม่ทำรัฐประหาร ป่านนี้ประเทศฉิบหายไปแล้ว? สำนึกบุญคุณเสียมั่ง รัฐบาลทหารได้เข้ามาวางรากฐานเศรษฐกิจ จัดระเบียบสังคม สั่งสอนค่านิยม กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกับเรือดำน้ำและงบผูกพันกลาโหมเกือบสองแสนล้าน บัดนี้ ได้เวลาอันควรที่จะให้ประชาชนได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คู่กับ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน ดังนั้น ประชาชนควรจะแซ่ซ้องสดุดี น้ำตาไหลปรี่ซาบซึ้งวีรบุรุษขี่ม้าขาว?

เก็บไว้บอกพวกเป่านกหวีดขัดขวางเลือกตั้งดีกว่ามั้ง แต่ ณ วันนี้จะยังซาบซึ้งอยู่กี่รายก็ไม่ทราบ

ยอมรับเสียเถอะ ว่ามีคนอีกฟากที่มุ่งมั่นใช้การเลือกตั้ง การมีประชาธิปไตยแม้เพียงเสี้ยวใบ เพื่อ “ไล่ทหาร” ออกไปจากการมีอำนาจทางการเมือง มีอำนาจเหนือการเมือง มีอำนาจคุมความมั่นคงภายใน ใช้ทัศนคติทหารมาปรับทัศนคติประชาชนให้เชื่อฟัง ทำตาม สอดส่อง ตั้งตนเป็นผู้หวังดี ควบคุมทุกอย่างในประเทศนี้ให้เป็นไปตามความต้องการของสถาบันกองทัพอันยิ่งใหญ่

เอาง่ายๆ การเลือกตั้งครั้งนี้สู้กันที่สืบทอดอำนาจสำเร็จไหม อำนาจใคร อำนาจตู่คนเดียวเรอะ ก็อำนาจรัฐประหาร อำนาจกองทัพ อำนาจรัฐราชการ โยงกันทั้งพวง

ซึ่งจะไม่จบแค่เลือกตั้ง แต่ยังยืดเยื้อยาวนาน ในการลบล้างผลพวงรัฐประหาร ในการไล่รื้ออภิสิทธิ์กองทัพ อย่างที่หม่อมอุ๋ยทักไว้ ความรู้สึกที่ว่า ทหารมีอภิสิทธิ์เหนือพลเรือน ทหารทำตัวเป็นผู้ปกครอง ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ชอบทหารมากขึ้นทุกที

ป่วยการที่จะยกภัยพิบัติ หรือยกสงครามโลกครั้งที่ 3 มาขู่ว่าประชาชนต้องพึ่งทหาร เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ประชาชนต้องการเห็นกองทัพที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่มาเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง ไม่นั่งคุมยุทธศาสตร์ชาติ มีขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพทันสมัย ไม่ใช่มีนายพลเกือบ 2 พันซึ่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อไหร่ ก็โดนกดปุ่มตายพร้อมชาวบ้าน

หรืออย่างที่โลกออนไลน์ย้อน อยู่บ้านหลวงรถหลวงน้ำมันหลวง มีงบลับ งบ IO งบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมทุกอย่าง มีกระทั่งสนามกอล์ฟของตัวเอง แค่มาช่วยชาวบ้าน แค่มาตอกตะปูกระเบื้องลอนคู่ ยังจะทวงบุญคุณ?

ฝากเตือนสติไว้ กองทัพคงไม่ได้มีแต่นายทหารที่กร่าง ใหญ่คับ หลงตัวเอง คนที่มีสติปัญญา เห็นปัญหา เข้าใจอนาคต น่าจะมีไม่น้อย แต่มีอำนาจมีบทบาทเพียงไรเท่านั้น

ในระยะยาว กองทัพไม่สามารถดำรงสถานะอยู่อย่างนี้ โดย ไม่ยอมปฏิรูปตัวเอง ในระยะเฉพาะหน้า กองทัพไม่มีทางถอยไปอย่างพระเอก ผู้ไม่เคยทำอะไรผิด ยิ่งเอากองทัพมาปกป้องกันเอง ปกป้องตัวเอง ก็ยิ่งเข้าปิ้งไปด้วยกัน



เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_2101436

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.