Posted: 17 Jan 2019 04:37 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Thu, 2019-01-17 19:37
ฟังมุม ป.ป.ช.ข้างน้อยปมนาฬิกาหรูประวิตร ชี้คดียังไล่ต่อไปได้ ประธาน ป.ป.ช.ลั่นเคลียร์คดีการเมืองเสร็จภายในปี 64 จ่อถ่ายรูป-พิมพ์ลายมือผู้ถูกกล่าวหาช่วยตามตัวง่าย ด้าน 'ชัชชาติ' ไม่กังวลถูกสอบ ชี้เป็นเรื่องเก่า ขอให้ยุติธรรม
17 ม.ค.2562 ไทยพีบีเอส และโพสต์ทูเดย์ รายงานว่า วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับ สถาบันอิศรา จัดกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ โดยบางช่วงบรรณาธิการหลายสำนักได้ซักถาม ป.ป.ช. ถึงเหตุผลการตีตกคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบไปยังบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรูในต่างประเทศ 4 แห่ง โดยใช้ช่องทางประสานผ่านสถานทูต ได้รับคำตอบจากบริษัทผู้ผลิต 3แห่ง ตอบกลับมาตรงๆว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากไม่ใช่กรณีทุจริต ส่วนอีกบริษัทระบุว่า วิธีการขอข้อมูลไม่ถูกต้องตามช่องทางกฎหมาย เพราะต้องใช้ช่องทางตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาเท่านั้น เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ ป.ป.ช. จึงมาวินิจฉัยอีกครั้งจะสามารถใช้ช่องทางพ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาขอข้อมูลได้หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากว่า ไม่สามารถทำได้ หากจะใช้ช่องทาง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญา คงใช้เวลาเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 6 เดือน-1 ปี คำตอบคงออกมาแบบเดิมว่า ไม่ใช่คดีการทุจริต
ป.ป.ช.เสียงข้างน้อย ชี้คดียังไล่ต่อไปได้
ขณะที่ สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า ในฐานะจบบัญชีมา ทำคดีร่ำรวยผิดปกติ มาเยอะ มีความเห็นตรงกับ สุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการป.ป.ช.เสียงข้างน้อยอีกคนว่า คดียังสามารถไล่ต่อไปได้ หากได้คำตอบจากต่างประเทศผ่านการใช้ช่องทางอัยการ แต่หากต่างประเทศยังไม่ให้ข้อมูลอีกจึงถือว่าจบ แต่วันนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น จึงคิดว่า ควรไปให้สุดสายเลยดีหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนสิ้นสงสัย
"ป.ป.ช.ยอมโดนด่า แต่สามารถชี้แจงได้ นี่คือสิ่งที่นักบัญชีคิดต้องตรงเป๊ะ อยากให้ทุกฝ่ายได้ข้อมูลครบถ้วน เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัย" กรรมการป.ป.ช.เสียงข้างน้อย กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า ตามปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่านาฬิกาที่ครอบครองเป็นของผู้ถูกอ้างหรือไม่ ข้อมูลไม่สุดสาย เป็นเรื่องการชั่งน้ำหนักแต่ละกลุ่มแล้วมีมติยอมรับ จบก็จบ การใช้ดุลพินิจในทุกเรื่องต้องมีมาตรฐาน ถ้าใช้ดุลพินิจที่ไม่มีเหตุผล ไร้มาตรฐานอาจมีคำถามตามมา ตนมีเหตุผลในส่วนของนักบัญชี แต่เคารพความเห็นกรรมการป.ป.ช.คนอื่นเช่นกัน ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ช.
ลั่นเคลียร์คดีการเมืองเสร็จภายในปี 64 จ่อถ่ายรูป-พิมพ์ลายมือผู้ถูกกล่าวหาช่วยตามตัวง่าย
สำหรับความคืบหน้าคดีทางการเมืองตามกฎหมายใหม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า คดีทางการเมืองและคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ ที่ประชุมมอบหมายให้ สุภา ปิยะจิตติ และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน โดยการไต่สวนถ้าเป็นคดีใหญ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คนจะเป็นองค์คณะไต่สวน หากเรื่องไม่ใหญ่มากแต่สำคัญ ต้องใช้กรรมการ ป.ป.ช. อย่างน้อย 2 คน เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน ยืนยันว่าคดีที่ค้างอยู่จะเป็นไปตามกระบวนการ แต่บางคดีมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งต้องทำให้ครบถ้วนและอาจใช้เวลานาน แต่ยืนยันว่าทุกเรื่องต้องเสร็จภายในปี 2564
ส่วนกรณีการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรา 36 ใน พ.ร.บ.ป.ป.ช. ที่ปกปิดชื่อผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง รวมถึงผู้ถูกกล่าวหานั้น ในชั้นไหนถึงจะเปิดเผยชื่อ และพฤติการณ์เบื้องต้น หากเป็นในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริง หรือชั้นไต่สวนข้อเท็จจริง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องวินิจฉัยว่าจะเปิดเผยชื่อได้หรือไม่ ตรงนี้คำวินิจฉัยกินความแค่ไหน หรือต้องรอตอนถูกชี้มูลความผิดอย่างเดียว นิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในช่วงพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป.ป.ช. ในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีการหารือเรื่องนี้พอสมควร โดยหลักการในมาตรา 36 คือการแยกชื่อผู้ร้อง กับผู้ถูกร้อง ไว้ชัดเจน ดังนั้นถ้าเป็นข้อมูลสาธารณะ ไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้ร้องได้ทุกกรณี ส่วนผู้ถูกร้องนั้นหากยังอยู่ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากในชั้นไต่สวนข้อเท็จจริงที่กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหา อาจเปิดเผยต่อสาธารณะได้หากเป็นประโยชน์ในการไต่สวน เช่น กรณีการเรียกรับเงิน หรือได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วสามารถเปิดเผยชื่อ สกุล หรือตำแหน่งของผู้ถูกกล่าวหาได้ เพียงพอให้เข้าใจว่าเป็นข้อกล่าวหาเรื่องอะไร
นอกจากนั้นเป็นการพิจารณาลักษณะความผิด แต่ไม่ได้เปิดเผยพยาน หรือรายละเอียดมาก เว้นแต่ในชั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด จะมีการระบุพฤติการณ์ความผิดของผู้ถูกกล่าวหา แต่ต้องคุ้มครองผู้ร้อง และพยาน เพื่อไม่ให้กระทบต่อรูปคดี เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด จำเป็นต้องเสนออัยการเพื่อฟ้องศาล หากเปิดเผยไปทั้งหมดจะกระทบต่อรูปคดีได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างร่างระเบียบดังกล่าว และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการร่างระเบียบการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาใหม่ เดิมการแจ้งข้อกล่าวหาคือ ให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบ ต่อมาเมื่อไต่สวนไปเรื่อย ๆ มีการชี้มูลความผิด ส่งสำนวนให้อัยการ เมื่อถึงเวลาจะนำตัวไปฟ้องศาล ป.ป.ช. ต้องเป็นผู้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไป แต่บางคดีระยะเวลาล่วงไปหลายปี อาจทำให้พบตัวผู้ถูกกล่าวหายาก จึงจะเปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่คือ เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาจะถูกถ่ายรูป และพิมพ์ลายนิ้วมือด้วย คาดว่าภายในเดือน ก.พ.2562 จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ ยืนยันว่าอะไรทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพ จะเร่งดำเนินการ
ประธาน ป.ป.ช.ยันไม่มีใครสั่งเร่งคดี 'ชัชชาติ' - 'ว่าที่ผู้สมัครเพื่อไทย' ถูกบุกจับ ขณะพา 'สุดารัตน์' ลงพื้นที่
'ชัชชาติ' ไม่กังวล ป.ป.ช. สอบ ชี้เป็นเรื่องเก่า ขอให้ยุติธรรม
ขณะที่มติชนออนไลน์และข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (17 ม.ค.62) ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อในสำนวนของป.ป.ช. ในประเด็นอนุมัติงบการบริการจัดการน้ำ และการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ว่า ก็ทำไปตามกระบวนการ ไม่มีอะไร มันเป็นเรื่องเก่า
ต่อคำถามที่ว่า กังวลจะกลายเป็นเรื่องพันแข้งพันขาให้ทำอะไรทำบากหรือไม่ นั้น ชัชชาติ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ขอให้ยุติธรรมเท่านั้นเอง และโดนกันหลายคน ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว
สำหรับประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยถึงการทำงานของป.ป.ช. โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองจะถูกจับตามากเป็นพิเศษในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเตรียมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ในบัญชีของพรรค จึงมีข่าวปรากฏว่า ป.ป.ช.ได้เร่งรีบหยิบยก 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับ ชัชชาติ ขึ้นมาพิจารณา ทั้งที่กรณีดังกล่าวถูกยื่นให้ป.ป.ช.ไต่สวนตั้งแต่ 5-6 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเวลาต่อมา (8 ม.ค.62) ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องว่ามีการเร่งคดี ชัชชาติ ไม่มีแน่ เพราะทุกเรื่องที่จะถูกบรรจุวาระการประชุมกรรมการป.ป.ช.นั้นจะต้องผ่านประธานป.ป.ช.ก่อน นอกจากนี้ ประธาน ป.ป.ช. ยังยืนยันว่าไม่มี และเวลาจะเลือกตั้งเพียงอีกแค่ 2 เดือนเรารอได้ ป.ป.ช.เรา ไม่อยากเป็นเครื่องมือใคร ตอนนี้ทำงานซ้ายก็โดนขวาก็โดน โดนทั้งหมด ดังนั้นเราจะต้องยืนหลักของเราให้ได้
แสดงความคิดเห็น