Posted: 18 Jan 2019 11:47 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2019-01-19 14:47


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรณีการบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพเป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ และการยิงโต๊ะอิหม่ามรือเสาะเสียชีวิตใน จ.นราธิวาส

19 ม.ค. 2562 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรณีการบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพเป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ และการยิงโต๊ะอิหม่ามรือเสาะเสียชีวิตใน จ.นราธิวาส โดยระบุว่า จากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดโคกโกหรือวัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ทำให้พระสงฆ์มรณภาพและบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2562 และก่อนหน้านี้ปรากฏเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายดอเลาะ สะไร โต๊ะอิหม่ามมัสยิดบ้านปูโปะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2562 นั้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ เห็นว่า ผู้นำทางศาสนาทั้งพุทธและอิสลามที่ถูกพรากชีวิตไป ล้วนเป็นที่เคารพและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของศาสนิกชนซึ่งมิควรที่จะถูกลบหลู่หรือทำร้าย แม้จะมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ทั้งสองเหตุการณ์จึงสะท้อนถึงความเลวร้ายที่สังคมมิอาจจะยอมรับ จึงขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจยังครอบครัว ญาติมิตร และประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อเหตุการณ์อันเศร้าสลดนี้ โดยขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและปฏิบัติดังนี้

1. ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที และได้สำนึกบาปต่อการกระทำดังกล่าว และหันกลับมาสร้างสันติสุข โดยต้องยุติการนำศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง 2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พึงเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และ 3. ประชาชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ควรร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เฝ้าระวัง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง การสร้างสถานการณ์ต่าง ที่บั่นทอนขวัญ และทำให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและการบรรลุเป้าหมายในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนที่จะนำไปสู่การคืนความสงบสุขแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ข่าว
การเมือง
สิทธิมนุษยชน
ความมั่นคง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กสม.
ชายแดนใต้

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.