ตำรวจแจงรายละเอียดกรณีผู้ต้องสงสัยคดีส่งพัสดุวัตถุระเบิดให้จนท.ฆ่าตัวตายในห้องพักในศูนย์ซักถามที่ยะลา ยืนยันพยายามตรวจสอบเต็มที่เพื่อป้องกันเหตุแล้วแต่ไม่เป็นผล

พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้เปิดเผยว่า วันนี้ 21 ก.ค. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้แถลงชี้แจงรายละเอียดเรื่องของนายสมจิตร จะระแอ ผู้ต้องสงสัยในคดีฝากพัสดุกล่องวัตถุระเบิดให้เจ้าหน้าที่ได้ฆ่าตัวตาย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเพื่อพยายามดูแลป้องกันแล้วแต่สุดวิสัย เจ้าตัวใช้สายยางฉีดน้ำในห้องน้ำรัดคอกับลูกกรงหน้าต่างระบายอากาศในห้องจนเสียชีวิต เผยก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าซักถามพบร่องรอยทำร้ายตัวเองด้วยการพยายามผูกคอ ทำให้ต้องคอยตระเวนตรวจสอบหน้าห้องทุกครึ่งชั่วโมง

คดีฝากระเบิดกับคิวรถตู้นี้เริ่มมาจากที่มีผู้นำพัสดุบรรจุระเบิดไปฝากที่คิวรถตู้โดยสารที่ตำบลบาโงยซิแน อ.ยะหา เพื่อให้นำส่งต่อฐานเจ้าหน้าที่อส.ทหารพรานที่อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสมจิตรคนขับรถตู้เป็นผู้ต้องสงสัยว่านำพัสดุดังกล่าวซึ่งไม่จ่าหน้าชื่อผู้รับไปฝาก แต่ต่อมาเมื่อปรากฏว่าไม่มีผู้ไปรับพัสดุดังกล่าวทำให้เจ้าของคิวรถให้คนนำไปส่งที่ฐานอ.ส.เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับและเปิดดูพบว่าข้างในมีระเบิด

พล.ต.ต.ดุษฎีเล่าว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมจิตรวัย 51 ปีคนขับรถตู้ที่คาดว่าอาจจะเป็นผู้นำพัสดุดังกล่าวไปฝากเอาไว้ เข้าศูนย์ซักถามพิทักษ์สันติเมื่อ 16 ก.ค. โดยได้ขอหมายตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินเรียกไปให้ปากคำ เป็นกระบวนการซักถามหาข้อมูลและปรับทัศนคติ ในวันแรกยังไม่มีการซักถามอย่างเต็มที่ วันถัดมาเริ่มมีการพูดคุยเพื่อปรับทัศนะและสร้างความคุ้นเคย ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ซักถามได้สังเกตเห็นรอยแผลที่คอ ซึ่งนายสมจิตรยอมรับว่าได้ทดลองเอาเสื้อที่ใส่รัดคอตัวเอง หลังจากนั้นจนท.เพิ่มความพยายามระมัดระวังมากขึ้นเพราะเกรงนายสมจิตรจะทำร้ายตัวเอ

พล.ต.ต.ดุษฎีเล่าอีกว่า ในการซักถามทุกครั้งจนท.จะสรุปผลซักถามให้นายสมจิตรลงชื่อรับทราบในเอกสาร ในวันเกิดเหตุช่วงเช้านายสมจิตรยังแสดงอาการสบายใจ แต่ในช่วงบ่ายมีบุตรชายเข้าเยี่ยมพูดคุยด้วย ลูกชายนายสมจิตรแสดงความไม่พอใจบิดาเมื่อรู้ว่าได้ลงชื่อในเอกสารของเจ้าหน้าที่ พร้อมกับออกจากศูนย์ไปท่ามกลางอาการไม่สบายใจของนายสมจิตร “ตรงนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนเพราะคนก็เครียดอยู่แล้ว คิดมาก ยิ่งมาเจอปฏิกิริยาของลูกแบบนี้อีก อาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุ และอาจเกิดจากความเครียดที่โดนควบคุมตัวด้วย”

ในช่วงกลางคืนเวลา 22.00 น.จนท.ปิดไฟให้ผู้อยู่ในศูนย์นอน เวลา 22.30 น.จนท.เดินตรวจและพยายามมองเข้าไปในห้องของนายสมจิตรซึ่งตอนแรกมองไม่เห็น แต่ในที่สุดพบว่า นอนอยู่กับพื้นข้างหน้าต่าง เมื่อเปิดห้องเข้าไปก็พบว่านายสมจิตรใช้สายยางฉีดน้ำที่ดูเหมือนจะไปถอดมาจากในห้องน้ำผูกคอตนเองกับลูกกรงหน้าต่างระบายอากาศในห้อง โดยใช้วิธีนั่งลงเพื่อใช้น้ำหนักถ่วงและสายยางรัดคอจนตาย เวลาที่จนท.พบเหตุคือประมาณ 22.40 น. ตนและจนท.หลายฝ่ายได้เร่งรุดไปดูที่เกิดเหตุพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว โดยแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ จนท.จึงได้แจ้งทางบ้านและครอบครัวเดินทางไปดูเวลาประมาณ 02.00 น. ท่ามกลางเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายโดยในระหว่างนั้นไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการใดๆที่จะกระทบกระเทือนหรือเปลี่ยนแปลงสภาพของสถานที่เกิดเหตุ จนท.และญาติๆของนายสมจิตรได้เข้าตรวจสอบห้องที่พัก ตรวจดูตามซอกมุมต่างๆ และญาติแสดงออกว่าไม่ติดใจ ทั้งยังลงชื่อไว้ในบันทึกประจำวันของจนท. ขอรับศพกลับไปจัดพิธีทางศาสนาโดยไม่ยอมให้มีการนำศพไปผ่าพิสูจน์

เมื่อถามว่า ความตายของนายสมจิตรจะกระทบถึงการสอบสวนความคืบหน้าของคดีหรือไม่ ผู้บังคับการสอบสวน ศปก.ชต.ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีได้เปิดเผยไปแล้วว่า ขณะนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติม คาดว่าจะไม่กระทบมากนัก ส่วนตัวนายสมจิตรเองมีความเกี่ยวโยงกับคดีแค่ไหนนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนเนื่องจากยังไม่ได้เริ่มสอบสวนอย่างจริงจัง ปกติแล้วในกรณีเช่นนี้คาดว่าจะต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจก่อนที่จะยอมเปิดเผยข้อมูล ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์

กับคำถามที่ว่า เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันเหตุเช่นนี้ได้อย่างไร พล.ต.ต.ดุษฎีระบุว่า ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความรอบคอบระมัดระวังแล้วด้วยการจับตาเป็นพิเศษนับแต่ที่นายสมจิตรยอมรับว่าได้ทดลองนำเสื้อผูกคอตนเองจนเป็นแผล โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะมีจนท.ตรวจเวรยามคอยตรวจสอบตลอด แต่เหตุการณ์เช่นนี้ใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้น ส่วนเรื่องของการใช้วัตถุในห้องเพื่อลงมือนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก ผู้ต้องสงสัยสามารถใช้หลายอย่างเป็นอุปกรณ์ได้ไม่ว่าโสร่ง ผ้าปูที่นอน



แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.