บีบีซีไทย - BBC Thai
ตุรกีกับปัญหาความไม่สงบที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ
เมืองใหญ่ของตุรกีทั้งกรุงอังการา และนครอิสตันบูล กำลังตกเป็นเป้าหมายการก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง และเหตุโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติอตาเติร์กเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ก็ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาความขาดเสถียรภาพและความมั่นคงของตุรกี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละกว่า 60 ล้านคน ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าปัญหานี้มีต้นตอมาจากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลตุรกีกับศัตรูทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ในอดีตตุรกีถูกมองว่าเป็นดินแดนแห่งเสถียรภาพ เชื่อมระหว่างยุโรปและตะวันออกกลาง แต่ในปัจจุบันสถานการณ์กลับตึงเครียดอย่างหนัก เพราะไม่เพียงรัฐบาลตุรกีจะต้องสู้รบกับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดทางภาคตะวันออกของประเทศ ที่กล่าวหาว่ารัฐบาลแอบหนุนหลังกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) เพื่อสกัดอิทธิพลของพวกตนแล้ว ก็ยังต้องเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอส ที่มองว่าตุรกีเป็นศัตรูจากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกลุ่มนาโตในการปราบปรามไอเอสในซีเรียและอิรัก ส่งผลให้ไอเอสข้ามพรมแดนเข้าไปก่อเหตุร้ายอย่างต่อเนื่องด้วย
เหตุระเบิดโจมตีย่านใจกลางนครอิสตันบูล 5 ครั้ง และเหตุร้ายอีก 4 ครั้งในกรุงอังการา ในระยะเวลาเพียง 8 เดือน เป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนต่อชาวตุรกีว่าเหตุรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเหตุโจมตีสนามบินครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบันของตุรกี โดยคนร้ายมุ่งเป้าโจมตีทั้งชาวตุรกีและชาวต่างชาติ ขณะที่ทางการตุรกีระบุว่าเบาะแสเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นฝีมือของกลุ่มไอเอส
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า ปัญหาความไม่สงบในตุรกีก่อนหน้านี้มักเกิดขึ้นในพื้นที่ของชาวเคิร์ดทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบระหว่างกองทัพตุรกีกับกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดพีเคเค ซึ่งมักมุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและสถานทูตชาติตะวันตก แต่หลังจากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลตุรกีกับกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดได้ยุติลงเมื่อเดือน ก.ค.ปีก่อน สถานการณ์ความรุนแรงก็เริ่มเลวร้ายลง และผู้ก่อเหตุได้เปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีพลเรือนมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดทีเอเค ซึ่งมีแนวทางแข็งกร้าวและใช้ยุทธวิธีที่รุนแรงกว่ากลุ่มพีเคเค มักพุ่งเป้าโจมตีเมืองใหญ่อย่างกรุงอังการา และนครอิสตันบูล
ศ.เมนเดเรส ซินาร์ จากมหาวิทยาลัยบาสเคนต์ ในกรุงอังการา เตือนว่า สถานการณ์ความรุนแรงในตุรกีมีแนวโน้มจะเลวร้ายลง โดยชาวตุรกีจำนวนไม่น้อยเริ่มไม่กล้าไปตามศูนย์การค้า หรือบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน หลายฝ่ายมองว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ตุรกีไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกต่อไป โดยทางการหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯต่างประกาศเตือนพลเมืองของตนให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในตุรกี และว่าอาจเกิดเหตุโจมตีขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก




แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.