บีบีซีไทย - BBC Thai
ไทยย้ำไม่หวังชนะที่นั่งคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ แต่มุ่งสร้างโอกาสในเวทีโลก
กระทรวงการต่างประเทศของไทยออกแถลงการณ์ภายหลังจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติเลือกสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) รอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) โดยผลปรากฏว่าสมาชิก 138 ชาติจากทั้งหมด 193 ชาติลงคะแนนให้กับคาซัคสถาน ส่วนอีก 55 ชาติลงคะแนนให้ไทย ส่งผลให้คาซัคสถานได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของยูเอ็นเอสซีในวาระปี พ.ศ. 2560 – 2561
เนื้อหาในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าไทยขอแสดงความยินดีกับคาซัคสถานที่ได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในยูเอ็นเอสซี รวมถึงขอบคุณมิตรประเทศที่ให้การสนับสนุนไทยซึ่งประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของยูเอ็นเอสซีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 แต่การรณรงค์หาเสียงของไทยที่ผ่านมามิได้มุ่งประโยชน์เพียงเพื่อให้ชนะเลือกตั้งเพียงประการเดียว แต่เป็นโอกาสที่ไทยได้สร้างมิตรและสานต่อความร่วมมือในระยะยาวกับมิตรประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของโลก และยกระดับบทบาทของไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ
นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรของยูเอ็นเอสซียังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลายประเทศให้โอกาสแก่คาซัคสถานเนื่องจากยังไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาก่อน ขณะที่ไทยมีโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2528-2529 การที่ไทยไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการปิดกั้นโอกาสที่ไทยจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ แบ่งเป็นสมาชิกถาวร 5 ชาติ ซึ่งมีอำนาจในการยับยั้ง (วีโต้) ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย ขณะที่สมาชิกไม่ถาวร 5 ชาติ จะเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ของสหประชาชาติได้หมุนเวียนกันมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคาซัคสถานจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560 ร่วมกับสวีเดน เอธิโอเปีย และโบลิเวีย ขณะที่อิตาลีและเนเธอร์แลนด์จะร่วมปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายละครึ่งเทอม หลังทั้งสองประเทศมีคะแนนเสมอกัน


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.