ผู้นำเยอรมนีเรียกประชุมหลังเหตุกราดยิงที่มิวนิค ยังไม่ตัดข้อสันนิษฐานเรื่องก่อการร้าย
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบด้านความมั่นคง วันนี้ (23 ก.ค.) เพื่อหารือสถานการณ์ภายในประเทศหลังเกิดเหตุกราดยิงที่เมืองมิวนิค ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศพันธมิตรของเยอรมนีต่างแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่ารัฐบาลของตนพร้อมให้ความสนับสนุนต่อรัฐบาลเยอรมนีในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นายฟรองซัวส์ โอล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แสดงความเสียใจต่อประชาชนเยอรมันที่ได้รับผลกระทบ และนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ระบุว่าสหราชอาณาจักรพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่เยอรมนีซึ่งเป็นมิตรประเทศ

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน และสถานกงสุลใหญ่ของไทยในนครแฟรงก์เฟิร์ต ประกาศเตือนชาวไทยในมิวนิกและเมืองใกล้เคียง โปรดงดการเดินทางไปในที่ชุมนุมชนโดยไม่จำเป็น และพึงใช้ความระมัดระวังในกรณีที่มีความจำเป็นต้องออกนอกเคหสถาน หากมีภารกิจจำเป็น ขอให้รีบดำเนินการและออกจากที่ชุมนุมชนโดยเร็ว พร้อมทั้งติดตามการรายงานข่าวอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะมีการประกาศว่าสถานการณ์ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุกราดยิงคนในเมืองมิวนิคเมื่อวานนี้ เป็นวัยรุ่นชายวัย 18 ปี ผู้ถือสองสัญชาติ ได้แก่ เยอรมนีและอิหร่าน แต่ข่าวไม่เปิดเผยชื่อ โดยผู้ก่อเหตุบุกกราดยิงคนบนถนนเมื่อเวลาประมาณ 18:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะบุกเข้าไปก่อเหตุในศูนย์การค้าโอลิมเปีย ก่อนที่วัยรุ่นคนดังกล่าวจะยิงตัวตายในเวลาต่อมา แต่ตำรวจในเมืองมิวนิคยืนยันว่าผู้ก่อเหตุลงมือเพียงลำพัง

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เบื้องต้นยังไม่พบเบาะแสเชื่อมโยงผู้ก่อเหตุและกลุ่มติดอาวุธใด แต่ยังไม่อาจตัดข้อสันนิษฐานว่าเป็นการลงมือที่ได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อเหตุร้ายเช่นกัน เพราะวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาเพิ่งเกิดเหตุวัยรุ่นชายผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน ใช้มีดแทงประชาชนบนรถไฟในเมืองเวิร์ซเบิร์กในรัฐบาวาเรียของเยอรมนีจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอสอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนั้น


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.