ภาพจากเว็บไซต์วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

Posted: 08 Jan 2019 02:41 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Tue, 2019-01-08 17:41


ประชาสังคม 70 องค์กร และบุคคล 70 คน ออกจดหมายเปิดผนึกถึงประธาน สนช. เรียกร้องยกเลิกมติที่ไม่รับรอง 5 รายชื่อว่าที กสม. สาย NGOs-นักวิชาการ

8 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคประชาสังคมประกอบด้วย องค์กร 70 องค์กร และบุคคล 70 คน ออกจดหมายเปิดผนึกถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อกรณีการลงมติของ สนช. ไม่รับรองผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

โดยเรียกร้อง ประธาน สนช. ทบทวนการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ พฤติกรรมทางจริยธรรมผู้ผ่านการสรรหา และต้องนำรายงานคณะกรรมการสรรหา มาประกอบการพิจารณาการรับรอง ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสม.

เปิดเผยรายงานการประชุมลับที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติเสนอต่อ สนช. เพื่อให้สังคมได้รับทราบเหตุผลในการไม่รับรองบุคคล 5 คนที่ผ่านการสรรหาให้เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กสม. เพื่อความโปร่งใส และเพื่อความบริสุทธิ์ใจในการตัดสินใจของ สนช.

นอกจากนี้ยังมีข้อเรียกร้องให้ ยกเลิกมติ สนช. ที่ไม่รับรองบุคคล 5 คน อันเนื่องจากเป็นมติที่ไม่มีความชอบธรรม ขัดกับหลักการธรรมาภิบาล และขัดกับหลักการปารีสซึ่งหาก สนช.เห็นว่า การเลือก กสม. เป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ และ สนช.ก็ได้ทำตามข้อบังคับการประชุมของ สนช.แล้ว ไม่จำเป็นต้องยึดหลักการปารีส จะเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์

ตัดออก 5 รายชื่อว่าที กสม. สาย NGOs-นักวิชาการ ส่วน 2 อดีตขรก. ลอยลำ

สำหรับรายละเอียดจดหมายเปิดผนึกมีดังนี้ :


จดหมายเปิดผนึก

วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๒

เรื่อง การลงมติของ สนช. ไม่รับรองผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

เรียน ท่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เคารพ


สืบเนื่องจากการลงมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการรับรองบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ด้วยการรับรองผู้ที่คณะกรรมการสรรหาเสนอรายชื่อให้พิจารณาเพียง ๒ คน และไม่รับรอง ๕ คน ประกอบด้วย (๑) นางสมศรี หาญอนันทสุข (๒) นายไพโรจน์ พลเพชร (๓) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร (๔) นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ และ (๕) นายสุรพงษ์ กองจันทึก ตามที่รับทราบกันโดยทั่วไปแล้วนั้น

องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน และบุคคลที่มีรายนามท้ายจดหมายนี้ มีความเห็นว่าการลงมติของ สนช. ที่ ไม่ยืนอยู่บนหลักการสิทธิมนุษยชนตามที่คณะกรรมการสรรหาใช้ในการพิจารณา รับรองบุคคลทั้ง ๕ คน ตามเหตุผลต่อไปนี้

๑. การไม่รับรองบุคคลทั้ง ๕ คน ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสรรหาว่า เป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นที่ประจักษ์ และมีคุณสมบัติเฉพาะทั้งสี่ด้าน ตามมาตรา ๘ มาตรา ๙ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐ ของ พ.รป.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยการลงคะแนนเสียงรับรอง ๑๐ - ๑๕ คะแนน และไม่รับรอง ๑๓๕-๑๔๕ คะแนน ทำให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าเป็นการลงคะแนนที่มีลักษณะจัดตั้ง ชี้นำ จนอาจทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการจงใจปฏิเสธบุคคลที่ทำงานภาคประชาสังคม (NOGs) ที่ทำงานและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง ด้านการส่งเสริมสิทธิและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจส่งผลให้สังคมไทยต้องเสียโอกาสในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของประชาชนและอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือจากนานาชาติด้านสิทธิมนุษยชน

๒. มติของ สนช. ส่วนใหญ่จึงไม่เป็นไปตามหลักการปารีสที่ระบุให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทุกประเทศต้องเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชน หรือภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหา และการได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อให้กิดความเป็นอิสระในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ การไม่รับรองบุคคลดังกล่าวทำให้ส่งผลลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่ติดลบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว ก็จะยิ่งติดลบมากขึ้น สุ่มเสี่ยงต่อสถานภาพของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไทยที่ขณะนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม B กลายเป็นกลุ่ม C คือตกไปอยู่ในกลุ่มที่มีสถานภาพต่ำสุด ไม่สามารถเข้าประชุมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในฐานะผู้เข้าร่วมประชุม ไม่มีสิทธิเสนอญัตติ ไม่มีสิทธิสมัครเข้าเป็นคณะกรรมการ และไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมแต่อย่างใด

๓. สนช. ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ พฤติกรรมทางจริยธรรมผู้ผ่านการสรรหา อาจขัดกับอำนาจ หน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา มาตรา ๑๓ (๓) ที่บัญญัติไว้ว่า “ในการสรรหา ให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมีความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม มีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสำเร็จ รวมตลอดทั้งคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทั้งหญิงและชาย และส่งเสริมความเป็นพหุสังคม และให้คณะกรรมการสรรหาส่งข้อมูลที่ใช้ในการพิจารณาคัดสรรไปยังวุฒิสภาเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย” ซึ่งย่อมเห็นได้ว่าคณะกรรมการสรรหา อันประกอบด้วย ประธานศาล ประธาน สนช. ผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน อาจารย์ นายกสภาทนายความฯ และผู้แทนสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชากชีพสื่อมวลชน เป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือทางสังคม ได้ให้ความเห็นชอบต่อผู้เข้ารับการสรรหาทั้งห้าคน ในเรื่องความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรม ดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้นการแต่งตั้งกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติ จริยธรรม ความประพฤติ จึงเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ซ้ำซ้อนและไม่ยอมรับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา ทั้ง ๆ ที่อำนาจ หน้าที่คณะกรรมการสรรหา ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขณะที่ อำนาจหน้าที่คณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติฯ ถูกกำหนดไว้เพียงข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเท่านั้น

๔. การจัดให้มีการประชุมลับเพื่อรายงานผลการตรวจสอบประวัติผู้ผ่านการสรรหา ระหว่างคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ กับ สนช. ก่อนที่จะมีการลงมตินั้น ไม่อาจกระทำได้ในกรณีของการรับรองผู้ที่ผ่านการสรรหาให้ได้รับการแต่งตั้งเป็น กสม. แม้ว่า ข้อบังคับการประชุมของ สนช. ปี ๒๕๖๐ ข้อ ๑๓๑ ได้ให้อำนาจแก่ สนช. ในการตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติได้ และข้อบังคับข้อ ๑๓๔ ข้อ ๑๓๕ และข้อ ๑๓๗ ให้อำนาจในการจัดทำรายงานลับได้ก็ตาม แต่ สนช. ไม่ควรใช้ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวมาใช้ เนื่องจากการสรรหาและการแต่งตั้ง กสม. ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการของ “สมาพันธ์สถาบันสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” หรือ Global Alliance of National Human Rights Institution – GANHRI ซึ่งเป็นกลไกขององค์การสหประชาชาติในการกำกับการได้มาซึ่ง กสม. ของทุกประเทศตามมาตรฐานสากลที่ต้องมีการดำเนินการที่โปร่งใส มีการให้ข้อมูลกับสังคม

ด้วยเหตุผลข้างต้นดังกล่าว องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน และบุคคลที่มีรายนามในท้ายจดหมายนี้จึงไม่อาจยอมรับมติของ สนช. ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ได้ และมีข้อเรียกร้องต่อท่านประธาน สนช. โปรดดำเนินการดังต่อไปนี้
ให้ทบทวนการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ พฤติกรรมทางจริยธรรมผู้ผ่านการสรรหา และต้องนำรายงานคณะกรรมการสรรหา มาประกอบการพิจารณาการรับรอง ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เปิดเผยรายงานการประชุมลับที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติเสนอต่อ สนช. เพื่อให้สังคมได้รับทราบเหตุผลในการไม่รับรองบุคคล ๕ คนที่ผ่านการสรรหาให้เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กสม. เพื่อความโปร่งใส และเพื่อความบริสุทธิ์ใจในการตัดสินใจของ สนช.
ยกเลิกมติ สนช. ที่ไม่รับรองบุคคล ๕ คน อันเนื่องจากเป็นมติที่ไม่มีความชอบธรรม ขัดกับหลักการธรรมาภิบาล และขัดกับหลักการปารีสซึ่งหาก สนช.เห็นว่า การเลือก กสม. เป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ และ สนช.ก็ได้ทำตามข้อบังคับการประชุมของ สนช.แล้ว ไม่จำเป็นต้องยึดหลักการปารีส จะเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์

องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน และบุคคลที่มีรายนามท้ายจดหมายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านประธาน สนช. จะรับฟังและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อกอบกู้วิกฤติศรัทธาที่กำลังเกิดขึ้นกับ สนช.ชุดที่ท่านเป็นประธาน โดยควรทำการยกเลิกมติของ สนช. ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ก่อนที่ สนช. ชุดนี้จะหมดวาระเมื่อมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในการสรรหาบนฐานหลักยึดทั้งสองระดับคือหลักการที่ควรจะเป็นในระดับประเทศและหลักการที่ถูกต้องในระดับสากล เพื่อนำไปลงมติรับรองหรือไม่รับรองบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในวุฒิสภาชุดใหม่ต่อไป

ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิมนุษยชน

รายนามองค์กร ๗๐ องค์กร และบุคคล ๗๐ คน

รายนามองค์กร
ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove)
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ๓๕
สถาบันสังคมประชาธิปไตย
สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา
มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.)
เครือข่ายนักสื่อสารแรงงาน
ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.)
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.)
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
มูลนิธิชุมชนเกษตรนิเวศน์ จ.สุรินทร์
มูลนิธิกองทุนไทย
มูลนิธิป่า-ทะเลเพื่อชีวิต จ.สุราษฎร์ธานี
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน
โครงการปฏิรูปการเกษตรและพัฒนาชนบท จ.พิจิตร
สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์
สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสาน
สมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)
สมาคมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD)
สมาคมป่าชุมชนอีสาน
มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว (มคค.)
มูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน (มรพ.)
สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.)
สถาบันพัฒนาพลังสังคม (สพส.)
มูลนิธิสระแก้วสีเขียว
มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.)
มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม
มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.)
สหพันธ์เกษตรภาคเหนือ (สกน.)
ศูนย์สร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา (สจน.)
เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติดินน้ำป่า ภาคเหนือล่าง
สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค
เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกฉะเชิงเทรา
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
เครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำระยอง-ประแสร์
มูลนิธิเพื่อนหญิง
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.พัทลุง
เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี
กลุ่มรุ้งอรุณ องค์กรสาธารณประโยชน์ จ.ลำปาง
Rainbow Dream Group จ.เชียงใหม่
เครื่อข่ายแรงงานนอกระบบ กรุงเทพมหานคร
เครือข่ายสภาพลเมืองจังหวัดชลบุรี
เครือข่ายปกป้องผืนป่าตะวันออก
มูลนิธิพัฒนาอีสาน
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ
มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ
ไคลเมทวอทช์ไทยแลนด์
Thailand HLPF Alliance
เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล
มูลนิธิผู้หญิง
เครือข่ายสตรีชนเผ่าพื้นเมือง
สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะด็กและเยาวชนชายแดนใต้
มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
สมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย
เครือข่ายแรงงานสตรีทีม
องค์กรสหภาพแรงงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง
เครือข่ายชาวเลอันดามัน​
เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้
สมาพันธ์เพื่อช่วยเหลือชาวมอญผู้ประสบภัยตามแนวชายแดน
กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย


รายชื่อบุคคล
นพพรรณ พรหมศรี
วาสนา ลำดี
ประกาศ เรืองดิษฐ์
เชษฐา มั่นคง
สุริยันต์ ทองหนูเอียด
มานพ สนิท
วิเศษ คุณฤทธิพงศ์
จำรัส หวังมณีย์
นิกร วีสเพ็ญ
วัฒนา นาคประดิษฐ์
ประพจน์ ศรีเทศ
ปานจิตต์ แก้วสว่าง
จำนงค์ จิตรนิรัตน์
ปฏิวัติ เฉลิมชาติ
กรรณิการ์ แพแก้ว
อนุชา วินทะไชย
กรรณิการ์ กิจติเวชกุล
สุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง
โอฬาร อ่องละ
สมบูรณ์ คำแหง
อารัติ แสงอุบล
สุแก้ว ฟงฟู
ดร.ดำเกิง โถทอง
พิณทอง เล่ห์กันต์
สุรัสวดี หุ่นพยนต์
วัชรา สงมา
สุธีลา ลืนคำ
สุดท้าย ต่อโชติ
นิรันดร์ กุลฑานันท์
รศ.ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ์
กรรณิกา ควรขจร
สาคร สงมา
สุธาวัลย์ บัวพันธ์
จันทนา เอกเอื้อมณี
นันทวัน หาญดี
ศ.ระพีพรรณ คำหอม
รศ.เล็ก สมบัติ
ผศ.ดร.ภุชงค์ เสนานุช
ผศ.ดร.นฤมล ทับจุมพล
ดร.น้ำผึ้ง มีศิล
ณีรมล สุทธิพรรณพงศ์
ภัทรมน สุวพันธุ์
โอฬาร ถิ่นบางเตียว
รุ้งนภา ยรรยงเกษมสุข
ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์
นรง สมาน
คงเจตน์ พร้อมนำพล
ณัฐวุฒิ บัวประทุม
ศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา
ดร.สมนึก จงมีวศิน
สุธี มาซ้ำ
ชวกร ศรีโสภา
วีรนุช พรมจักร
ดร.ประวีณ จุลภักดี
เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์
นวกนก เค้าสิม
อุษา เขียวรอด
ชาญยุทธ เทพา
สันติชัย ชายเกตุ
ภินันท์ โชติรสเศรณี
พนม ทะโน
สุดใจ พรหมเกิด
สุจิน​ รุ่งสว่าง​
นวรัตน์ ขันธ์ทองวีรากุล
ปราณี ศรีกำเนิด
พัฒนจรินทร์ สวนแก้วมณี
กฤตัชญ์ จิตรักษ์
เอกชัย อิสระทะ
อภันตรี เจริญศักดิ์
ธนพร วิจันทร์

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.