Posted: 14 Jan 2019 06:21 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2019-01-14 21:21


ความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนรัฐเท็กซัสกับเม็กซิโกก็ถูกต่อต้านจากชาวเท็กซัส เพราะพวกเขาถูกเสี่ยงเวนคืนพื้นที่ ด้านนักบวชคาทอลิกก็กังวลว่าโบสถ์อายุ 150 ปี ที่ใช้จัดพิธีสำคัญก็อาจถูกรื้อถอนเพราะโครงการกำแพงดังกล่าว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ดูแบบจำลองของกำแพงกั้นชายแดนรูปแบบต่างๆ ที่ออเท เมซา รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 13 มี.ค. 2018 (ที่มา: CBP.gov/Wikipedia)

14 ม.ค. 2562 สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) และหน่วยวิศวกรรมกองทัพสหรัฐฯ เคยส่งจดหมายไปถึงเจ้าของที่ดินในพื้นที่รัฐเท็กซัสแจ้งความประสงต้องการเข้าถึงที่ดินของพวกเขาเพื่อการสนับสนุน "โครงสร้างพื้นฐานชายแดนจากคำสั่งของสภาคองเกรสตามการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2562" และโครงการอื่นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งหมายถึงการต้องการใช้ที่ดินของพวกเขาในการสร้างกำแพงปิดกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกในรัฐเท็กซัสนั่นเอง

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนชาวสหรัฐฯ รัฐเท็กซัส ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับโครงการกำแพงของโดนัลด์ ทรัมป์ เลย หนึ่งในนั้นคือ เนย์ดา อัลวาเรซ ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ติดอยู่กับชายแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก ในเมืองริโอแกรนด์ของรัฐเท็กซัส

อัลวาเรซและเจ้าของที่ดินรายอื่นๆ ในริโอแกรนด์วัลเลย์ได้รับจดหมายดังกล่าวจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อขอ "เข้าถึง" ที่ดินของพวกเขาเพื่อดำเนินการในด้านต่างๆ แต่ทนายความและผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่านั่นเป็นก้าวแรกของรัฐบาลที่พยายามจะยึดที่ดินของชาวเท็กซัสโดยอาศัยอำนาจการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตามการยึดที่ดินของประชาชนเหล่านี้อาจจะกลายเป็นหนทางขรุขระสำหรับแผนการที่รัฐบาลทรัมป์พยายามการสร้างกำแพงหลายร้อยไมล์ระหว่างพรมแดนเม็กซิโกและสหรัฐฯ ซึ่งจะทาบผ่านบ้านเรือนของประชาชนทั่วไปอย่างอัลวาเรซด้วย

รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เริ่มสำรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนเม็กซิโกในเท็กซัสเพื่อสร้างกำแพง 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว โดยประกาศว่ามีแผนการจะสร้างภายในเดือน ก.พ. นี้ แต่ก็ทำให้คนในพื้นที่ไม่ยอมให้พวกเขามายึดที่ดินไปง่ายๆ และเตรียมพิพาทคดีนี้ในชั้นศาล และหนึ่งในคนที่ประกาศต่อต้านกำแพงนี้อย่างแข็งขันคืออัลวาเรซเอง เธอบอกว่าเธอตั้งการเขียนคำว่า "ไม่เอากำแพงกั้นพรมแดน" บนหลังคาของเธอเพื่อให้โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เห็นเวลาที่เขายินมาเยี่ยมชมพื้นที่สร้างกำแพงในเท็กซัส เธอบอกว่าที่เธอไม่ยอมเพราะเธอจะถูกไล่ที่ด้วยเหตุนี้

อิเฟรน อี โอลิวาเรส ผู้อำนวยการโครงการด้านความเป็นธรรมทางเชื้อชาติสีผิวและเศรษฐกิจของโครงการสิทธิพลเมืองเท็กซัสกล่าวว่ามีเจ้าของที่ดินราว 100 คน ที่ได้รับจดหมายจากทางการขอสำรวจพื้นที่ แต่ทว่าการสำรวจดังกล่าวนี้เป็นขั้นตอนแรกของรัฐบาลในการเวนคืนที่ดิน โดยหลังจากที่รัฐบาลมองว่าที่ดินของประชาชนเหล่านี้เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขาก็จะขอซื้อหรือไม่ก็นำเรื่องขึ้นศาลในการบีบให้เจ้าของที่ดินขายให้รัฐบาล

ทางกลุ่มสิทธิพลเมืองเท็กซัสพยายามโต้ตอบรัฐบาลในเรื่องนี้ด้วยการเดินทางไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ตามบ้านเพื่อบอกให้พวกเขารู้ถึงสิทธิที่พึงมีของตัวเองว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเซนต์สัญญายินยอมให้ทางการเข้าถึงที่ดินของพวกเขาก็ได้ นอกจากนี้ยังพยายามให้ความรู้ประชาชนเรื่องนี้ผ่านทางโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตและสปอตโฆษณาทางวิทยุด้วย อย่างไรก็ตามโอลิวาเรสบอกว่าในกระบวนการศาลนั้นประชาชนในสหรัฐฯ อาจจะต่อสู้ได้ยากหน่อยเพราะศาลรัฐบาลกลางมักจะเข้าข้างฝ่ายรัฐบาลเมื่อมีการอ้างเรื่องการเวนคืนด้วยสาเหตุเรื่อง "ความมั่นคง"

สื่อวอชิงตันโพสต์รายงานอีกว่าก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่ทรัมป์เคยพยายามไล่ที่แม่ม่ายผู้อาศัยในแอตแลนติคซิตี รัฐนิวเจอร์ซี เพื่อใช้เป็นสถานที่สร้างลานจอดรถลีมูซีนของทรัมป์พลาซาคาสิโนที่เขาเป็นเจ้าของ แต่ในคราวนั้นศาลนิวเจอร์ซีตัดสินคัดค้านทรัมป์และรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเจ้าของบ้านก็ย้ายไปที่แคลิฟอร์เนียนำบ้านของเธอขึ้นประมูลและถูกรื้อถอน ในตอนนี้มันกลายเป็นพื้นที่จอดรถว่างเปล่าหลังสถานบันเทิงที่ไร้ชีวิต แต่ทรัมป์ก็ยังพยายามสนับสนุนการเวนคืนเหล่านี้

หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเวนคืนสร้างกำแพงของทรัมป์คือเขตมิสซังคริสต์นิกายคาทอลิกแห่งบราวน์วิลล์ มีโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งชื่อลาโลมิตาเป็นโบสถ์ที่มีอายุมากกว่า 150 ปีเสี่ยงจะถูกเวนคืน ทำให้พวกเขาต่อสู้คดีกับทางรัฐบาล เพื่อปกป้องพื้นที่ที่เป็นแหล่งพิธีกรรมของคนในชุมชนอย่างพิธีมิสซา การแต่งงาน และงานศพ ในศาสนสถานของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรม "วันอาทิตย์ใบลาน" ซึ่งเป็นพิธีสมโภชจัดในวันอาทิตย์ 1 สัปดาห์ก่อนอีสเตอร์ ที่มีคนเข้าร่วม 2,000 คน ทุกปี

แมรี แมคคอร์ด ศาตราจารย์ด้านกฎหมายและอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เป็นคนที่กำลังทำคดีให้กับชาวคริสต์ในบราวน์วิลล์อยู่ เขาบอกว่าสำหรับบิชอปแห่งบราวน์วิลล์ แดเนียล อี ฟลอเรส แล้ว การให้รัฐบาลเข้าถึงที่ดินของศาสนสถานนี้อาจจะกลายเป็นการส่งเสริมให้รัฐบาลเข้ามายึดพื้นที่ของพวกเขาไปซึ่งจะเป็นการละเมิดความเชื่อและหลักปฏิบัติของนิกายคาทอลิก ฟลอเรสบอกว่าการสร้างกำแพงในพื้นที่ของเท็กซัสจะกลายเป็นภาระให้กับการทำกิจกรรมทางศาสนาและรัฐบาลก็ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะสร้างกำแพง

รัฐบาลมีคำร้องขอเข้าถึงที่ดินแห่งนี้มาเป็นเวลาราว 1 ปี แล้ว โดยจะมีการรับฟังคำไต่สวนข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายในเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้

เรียบเรียงจาก

Trump’s wall needs private property. But some Texans won’t give up their land without a fight., The Washington Post, 10-01-2019

As Trump visits border, Texas landowners prepare wall fight, AP, 11-01-2019

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.