Posted: 14 Jan 2019 06:15 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2019-01-14 21:15


ใบตองแห้ง

ไม่เลื่อน Vs ไม่เลือก บ.ก.ลายจุดโพสต์คำคม วันนี้มีคน 2 ประเภท คนไม่อยากให้เลื่อนเลือกตั้ง กับคนไม่เอาเลือกตั้ง ที่ออกมาด่าประณาม ไล่คนอยากเลือกตั้งออกนอกประเทศ

คนพวกหลัง หน้าตาซ้ำเดิมทั้งนั้น พวกขัดขวางเลือกตั้งกระทั่งเกิดรัฐประหาร มีความสุขกับระบอบเผด็จการยั่งยืนนานสี่ห้าปี มีสภาแต่งตั้ง มีองค์กรอิสระหน้าห้อง แล้วบอกว่านี่คือระบอบคนดีมีศีลธรรม

อาการที่แสดงออก มันบอกว่าพวกเขาไม่ใช่แค่อยากให้เลื่อนเลือกตั้ง แต่ใจจริง ไม่ได้อยากกลับสู่เลือกตั้งด้วยซ้ำไป อยากให้เผด็จการอยู่ชั่วกัลปาวสาน แต่หมดข้ออ้าง พอมีเหตุให้เลื่อนเลือกตั้ง ก็มีความหวังริบหรี่ ต่อลมหายใจ หรือหวังว่าจะมีอะไรพลิกผันในเฮือกสุดท้าย

ที่ตั้งคำถามว่าเดือดร้อนอะไร กับการเลื่อนเลือกตั้งไปไม่กี่วัน มีรัฐบาลใหม่หลังพระราชพิธี ก็ต้องย้อนถามเช่นกันว่าเดือดร้อนอะไร ถ้ารีบเลือกตั้ง ให้มีรัฐบาลใหม่มาจัดพระราชพิธี

ซึ่งบางทีอาจเป็นประยุทธ์คนเดิมก็ได้ แต่ต่างความหมาย เพราะเมื่อมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก็จะหมด ม.44 เมื่อมีรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ประเทศนี้ก็จะกลับสู่ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่นที่เป็นมาหลายสิบปี

ฉะนั้นที่ถกเถียงกัน ถ้าแยกเสียใหม่ก็ได้ 2 ประเภท คือคนที่อยากให้รัฐบาลเผด็จการจัดพระราชพิธี กับคนที่อยากให้รัฐบาลหลังเลือกตั้งมาเป็นตัวแทนประชาชนถวายความจงรักภักดี ถามว่าคนที่คิดอย่างนี้ผิดด้วยหรือ

ว่าที่จริง คนที่เชียร์ประยุทธ์อยู่ต่อไม่น่าจะวิตกกังวลอะไร ถ้าเชื่อในพลังประชารัฐ ถ้าเชื่อสังศิตโพล พรรคเพื่อแม้วเพื่อไทยไม่มีทางสู้ได้ ขนาดต้องไปปราศรัยบนรถกระบะ รีบเลือกตั้งซะ ในช่วงที่เพิ่งแจกเงินคนจน แจกแต๊ะเอียตรุษจีน ให้ประยุทธ์รีบกลับมาเป็นนายกฯ จัดพระราชพิธีอย่างสง่างาม ไม่ดีกว่าหรือ

แต่ความเป็นจริงก็รู้กัน มันจะไม่เป็นอย่างนั้นสิ ภายใต้กระแสรุมกระหน่ำ พรรคไหนหาเสียงก็ยำผลงานรัฐบาล สี่ปีกระเป๋าแฟบ ยิ่งอัดนโยบายประชานิยมโค้งสุดท้าย ยิ่งกลายเป็นเอาเปรียบ บวกกับใช้อำนาจเอื้อพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนตัวเอง

กระนั้นเลื่อนเลือกตั้งไปจะได้เปรียบหรือ เผลอๆ จะยิ่งกระแสตก สมมติเลือกตั้ง 24 มี.ค. ไม่ใช่รอ 60 วันค่อยประกาศผลหลังพระราชพิธีนะครับ ไม่เกินวันรุ่งขึ้น ประชาชนก็จะรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการ สมมติพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อประยุทธ์เป็นนายกฯ แล้วกลับได้ส.ส.ไม่ถึง 50 หรือพรรคฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจได้ส.ส.เกินครึ่ง

ถามว่าประยุทธ์จะแบกหน้าต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในช่วง 60 วันนั้นอย่างไร

วันนี้สิ่งที่หลายคนกังวลคือกลัวความไม่ชัดเจน กลัวเลื่อนไปเรื่อยๆ เสียมากกว่า ถ้าชัดเจนว่าเลือกตั้ง 10 หรือ 24 มี.ค. แม้ต้องรอรัฐบาลใหม่เดือนมิถุนาฯ กระแสคัดค้านก็จะบรรเทาลง

หันกลับไปมองภาพรวม ตั้งแต่เปิดให้หาเสียงมา 2-3 เดือน บรรยากาศการเมืองก็เปลี่ยนไป กลายเป็นบรรยากาศที่อำนาจเบ็ดเสร็จเริ่มควบคุมไม่ได้ แม้ยังมี ม.44 อยู่ในมือ เพราะเมื่อเปิดให้หาเสียง พรรคการเมืองต่างๆ ก็แข่งขันกันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล สังคมเริ่มมีเสรีภาพ มีคนกล้าท้าทายมากขึ้นๆ

นี่ขนาดยังไม่เลือกตั้ง ยังไม่หมด ม.44 ถ้ามีรัฐบาลใหม่ ต่อให้ประยุทธ์สืบทอดอำนาจได้ ก็ลองคิดดูว่าจะอยู่อย่างไร

นี่คือภาพที่พวกไม่เอาเลือกตั้ง พวกอีลิทเก่า พวกอนุรักษนิยม วิตกกังวล มีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ระบอบอำนาจของพวกเขาก็นับถอยหลังสู่การพังทลาย ต่อให้ประยุทธ์สืบทอดอำนาจได้ ด้วยพรรคพลังประชารัฐ พวกนี้ก็อิหลักอิเหลื่อที่จะต้องพึ่งฐานเสียงนักการเมืองเก่า พึ่งการกวาดต้อนส.ส.ที่พวกตนเคยด่าทอว่าน้ำเน่า เข้ามาค้ำรัฐบาลเป็นก๊กเป็นเหล่า เข้ามามีอำนาจต่อรอง ที่เคยสงวนไว้เฉพาะพวกตัว

คนเหล่านี้มีความคิดฝังหัว เผด็จการดีที่สุด เครื่องแบบนักเรียนดีที่สุด หวาดกลัวการเลือกตั้ง หวาดกลัวความคิดใหม่ ความคิดเสรี ขนาดจะเข้าสู่เลือกตั้งยังปลุกผีย้อนยุค ไม่น่าเกิด 14 ตุลา ไม่น่าไล่ถนอม ประภาส รัฐประหารวางยุทธศาสตร์ชาติ นักการเมืองจะเข้ามาย่ำยี

คนเหล่านี้เป็นคนส่วนน้อยของสังคมไทย แต่เสียงดัง เพราะอิงอำนาจ ปืน กฎหมาย รวมถึงอำนาจทางวัฒนธรรมที่ครอบงำความคิดคนไทย คนพวกนี้จะสร้างกระแสอยู่ตลอด เพื่อให้ยื้อการเลือกตั้งไปยาวๆ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ท้ายที่สุดก็คือไม่อยากให้มีเลือกตั้ง อยากให้เผด็จการอยู่ไปนานๆ

นี่ถ้าล้มเลือกตั้งได้ ก็คงล้มไปแล้ว แค่ยังหาเหตุไม่ได้เท่านั้นเอง



เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_2074887

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.