กงสุลใหญ่นครลอสแองเจลิสยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนไทยบางส่วนเกี่ยวข้องกับค้าประเวณีซึ่งส่งผลต่อขุมชนไทยในภาพรวม ขณะที่องค์กรช่วยเหลือคนไทยในอเมริกาเชื่อว่ายังมีเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์อีกจำนวนมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

ชัญชนิษฐ์ มาร์เทอร์แรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ให้สัมภาษณ์กับ วีโอเอ ภาคภาษาไทย ถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์ทางเพศหลังทางการสหรัฐฯออกปฏิบัติการจับผู้ต้องหาในขบวนการค้าหญิงไทยข้ามชาติที่เป็นทั้งคนไทยและชาวอเมริกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า นอกจากจะช่วยเหลือและปกป้องด้านกฎหมายสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์แล้วยังต้องช่วยในด้านความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตอีกด้วย

‘ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อนี่ เราก็ช่วยในด้านให้บริการต่างๆ ด้านที่พัก ด้านอาหาร ของอะไรที่ต้องการใช้ พยายามหางานให้เขาทำ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการให้กำลังใจเขา เพราะว่าการกระทำที่เกิดกับเขานั้น กระทบกระเทือนจิตใจพวกเขา’

ขณะเดียวกันหญิงไทยหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้จะถูกกันไว้เป็นพยานและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย รวมทั้งความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามคำสั่งฟ้องศาลของอัยการรัฐมินนิโซต้า

พนิดา จอนส์สะ ทนายความของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย หนึ่งในทีมกฎหมายที่ร่วมทำงานกับอัยการรัฐมินนิโซต้า ย้ำถึงความสำคัญของขั้นตอนนี้ว่าฝ่ายกฎหมายและทางการสหรัฐฯจะต้องช่วยดูแลและปกป้องผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออย่างรัดกุมที่สุด

‘ตอนนี้คดีมันยังไม่จบ มันเพิ่งเริ่ม เราเลยเห็นว่าทางผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เราก็ต้องพยายามป้องกันให้เขา เราจะไม่ออกชื่อ หน้าตาอะไรพวกนี้เลย เวลาพูดถึงเรื่องของใครก็จะเปลี่ยนชื่อทุกครั้งเลย และตอนนี้เราเห็นว่ามันจะมีผลกับคดีด้วยถ้าเราออกมาพูดตอนนี้’

ในฐานะหน่วยงานช่วยเหลือคนไทยที่ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในคดีนี้มายาวนาน เชื่อว่ายังคงมีเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้อีกจำนวนไม่น้อยอาจจะยังกลัวอันตรายและไม่กล้าที่จะออกมาให้ข้อมูล แต่เชื่อว่าต่อจากนี้น่าจะผ่อนคลายลงบ้างและจะสามารถออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอความช่วยเหลือกับ Thai CDC ได้

‘มันดีมากเลย ที่ตอนนี้เราแถลงข่าวได้แล้วและข้อมูลทั้งหลายออกมาเป็นเอกสารสู่สาธารณะได้ เพราะว่าผู้หญิงทั่วไปที่เราอาจจะหายังไม่เจอ อาจได้ข่าวและก้าวออกมาหาเราเพื่อขอความช่วยเหลือได้’ ชัญชนิษฐ์ มาร์เทอร์แรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย

ขณะที่พนิดา จอนส์สะ ทนายความของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย บอกว่า

‘ส่วนมากคนที่เป็นเหยื่อจะไม่เห็นว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ แต่ว่าเราก็อธิบายว่า ที่อเมริกาเรามีกฎหมายอะไรบ้าง และอธิบายถึงสิทธิที่เราควรมี...มันไม่ใช่เรื่องว่าเราต้องการพยาน แต่เราแค่อยากจะช่วยให้ผู้หญิงได้ออกมา เพราะว่าตอนนี้เขาก็อยู่ที่อเมริกาแบบไม่มีใบ (ไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย) มันก็อันตรายขึ้นทุกวัน และตอนนี้เราก็ยื่นของ ที-วีซ่าได้ (วีซ่าสำหรับเหยื่อการค้ามนุษย์) เพราะเราก็ทำงาน กับตำรวจด้านตรวจคนเข้าเมืองด้วย ’

นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แองเจลิส ให้สัมภาษณ์กับ วีโอเอ ไทยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาและที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นคนไทยจำนวนมาก และได้พยายามที่จะขอข้อมูลเพื่มเติมเพื่อเข้าพบและประสานความช่วยเหลือแต่ยังคงติดขัดในเรื่องเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้การขั้นตอนต่างๆไม่ง่ายนัก

‘หน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่เป็นเรื่องของการเข้าไปช่วยเหลือให้เหยื่อของการค้ามนุษย์ได้รับความยุติธรรมตามกฎหมายท้องถิ่น หรือแม้แต่ว่าถูกกักกันถูกจับเราจะต้องเข้าไปช่วยให้การดูแล ก่อนหน้านี้ในคดีเดียวกันเราก็ติดต่อไปเยี่ยมผู้ต้องหาในสถานจองจำ องลอส แองเจลิส แต่การติดต่อเข้าไปเยี่ยมนั้นยากมาก เพราะประเทศไทยไม่มีข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่าด้วยการแจ้งเตือนให้ทราบ หรือ notification country ซึ่งกลุ่มประเทศที่ทำข้อตกลงนี้ไว้กับสหรัฐฯมีอยู่ประมาณ 20 กว่าประเทศแต่ประเทศไทยไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น ในกรณีที่คนไทยถูกจับหรือประเทศที่ไม่ได้ทำข้อตกลงนี้ไว้ เจ้าหน้าที่ก็จะถามว่า ต้องการให้แจ้งสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือไม่ แต่บางทีเมื่อคนเราถูกจับอาจจะตกใจ อาจจะฟังไม่ทัน หรืออาจไม่อยากให้มาแจ้ง เพราะเกรงกลัวหรือละอาย ดังนั้นข้อมูลของเราจึงค่อนข้างจำกัด กว่าจะเข้าไปเยี่ยมได้แต่ละคนประสบความลำบากมาก’

กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แองเจลิส บอกว่า คดีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชุมชนไทยในหลายรัฐฯ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าที่ผ่านมามีกลุ่มชาวไทยในอเมริกาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีหรืออาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วย

‘ชุมชนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ และแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือกลุ่มร้านอาหารและกลุ่มนวดและสปา ในส่วนกลุ่มร้านอาหารอาจจะไม่เกี่ยวข้องเท่าไหร่ แต่กลุ่มนวดและสปา อาจจะมีหมิ่นเหม่ อาจจะมีบางคนบางท่านก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีด้วย แต่จะล่วงไปถึงค้ามนุษย์หรือไม่นั้น ผมคิดว่า ก็คงจะมีอยู่บ้าง

..ผมคิดว่ากรณีนี้กรณีนี้ก็เป็นบทเรียนที่สำคัญ สำหรับคนไทยในอเมริกาใม่ใช่เฉพาะในนครลอส แองเจลิส แต่เป็นหลายๆเมืองทั่วประเทศสหรัฐฯ ที่อาจจะมีกิจกรรมที่หมิ่นเหม่ กิจกรรมที่เทาๆ ผมก็ขออนุญาตฝากเตือนพี่น้องชุมชนไทยทั่วอเมริกาว่า สิ่งที่ท่านทำนั้นท่านทราบดีอยู่แล้วว่าผิดกฎหมาย การค้าประเวณีผิดกฎหมาย ส่วนการค้ามนุษย์ก็โทษแรงมาก ในแต่ละรัฐการลงโทษไม่เท่ากัน ติดคุกนับสิบๆปี หรือบางครั้งอาจจะตลอดชีวิต'

ปฏิบัติการทลายขบวนการค้าหญิงไทยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ พร้อมกันในหลายรัฐทั่วอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในอเมริกาอย่างมาก และเป็นหนึ่งในปฏิบัติการทลายแก๊งค์ค้ามนุษย์เพื่อใช้แรงงงานทางเพศ หรือ Sex Trafficking ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา


source :- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066990559705117172

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.