แฟ้มภาพเอกชัย (เสื้อแดง) และโชคชัย (เสื้อยืดสีดำด้านหลังเอกชัย) ขณะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 24 ส.ค. 2561 (ที่มา: Banrasdr Photo)
Submitted on Fri, 2019-01-04 19:42
เอกชัย หงส์กังวาน ยื่นหนังสือให้ กกต. ขอให้จัดเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. พร้อมเร่งประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วัน เชื่อทำทันงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ย้ำมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งก่อนพิธีสำคัญ ดีกว่ารัฐบาลเผด็จการทหาร ขณะเดียวเอกชัย เข้ายื่นหนังสือ ป.ป.ช. คาใจปมนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร
4 ม.ค. 2562 แนวหน้าออนไลน์ รายงานว่า เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เอกชัย หงส์กังวาน กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต. เพื่อนำเสนอข้อดีของการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 ก.พ.2562ว่าหลังการเข้ารับตำแหน่งประธาน กกต. ของอิทธิพร บุญประคอง ได้มีการยืนยันมาโดยตลอดว่า จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. จนกระทั่งล่าสุดมีกระแสเลื่อนการเลือกตั้ง โดยอ้างอิงเรื่องการการทับซ้อนกับงานพระราชพิธีราชภิเษก ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน กกต. ควรยืนยันที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.แล้ว รับรองผลการเลือกตั้งให้มี ส.ส. อย่างน้อย 475 คน ให้ได้ภายใน 30 วัน ก็จะทำให้มีรัฐบาลใหม่ก่อนงานพระราชพิธี ซึ่งจะทำให้แขกจากต่างประเทศมาร่วมงานได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ และจะสง่างามมากกว่า เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากเผด็จการทหาร
ส่วนกรณีที่วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าหากเลือกตั้ง 24 ก.พ. จะเปิดประชุมรัฐสภาไม่ทันนั้น เอกชัย กล่าวว่า เป็นการคำนวณจากกรอบเวลารับรอง ส.ส. ที่ 60 วัน แต่ในทางปฎิบัติ กกต. สามารถทำให้แล้วเสร็จก่อนกรอบเวลาตามกฎหมาย แล้วค่อยไปตามสอยทีหลัง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งทีผ่านมาก็มีใบแดงใบเหลือง ก็สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ภายใน 30 วัน จึงไม่มีเหตุผลหรือความพิเศษอื่นใดที่จะต้องขยายเวลารับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. ออกไปเป็น 60 วัน ถ้าทำตามนี้จะได้ ครม. ใหม่ไม่เกินวันที่ 26 เม.ย. ซึ่งเวลาไม่ได้กระชั้นชิดกับงานพระราชพิธีราชภิเษกตามข้ออ้างของวิษณุ
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานด้วยว่า วันเดียวกัน เอกชัย และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ได้เดินไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อสอบถามเรื่องที่ยังคาใจกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยเอกชัย ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2561 ป.ป.ช. ได้แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จกรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยอ้างว่ามีการตรวจพบนาฬิกตามที่ พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงทั้งหมด 22 เรือน ซึ่งทั้งหมดเป็นขอที่ยืมมาใส่ และได้คืนไปทั้งหมดแล้ว แม้ตรวจสอบไม่พบหลักฐานการซื้อไม่ครบทุกเรือน แต่กลับอ้างกฎหมายแพ่งมาตรา 369 ว่า ทรัพย์สินอยู่ที่ใครแม้จะไม่มีหลักฐานก็ให้ถือว่าคนนั้นเป็นเจ้าของ สุดท้ายก็มีมติให้เรื่องนี้ตกไป
เอกชัย กล่าวต่อไปว่า วันนี้พบกับผู้ที่ดูแลกรณีนาฬิกาหรู และได้ถามคำถามหลายเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ และคิดว่ากรณีนี้ยังมีพิรุธอยู่หลายๆ อย่าง
แสดงความคิดเห็น