Posted: 04 Jan 2019 02:22 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2019-01-05 05:22
สมาชิกรัฐสภาจากหลายพรรคของอังกฤษและทีมทนายความนานาชาติส่งจดหมายถึงทางการซาอุดิอาระเบียเพื่อขอเข้าเยี่ยมนักกิจกรรมด้านสิทธิสตรีในซาอุดิอาระเบียที่ถูกคุมขัง และเคยมีรายงานระบุว่ามีการทารุณนักกิจกรรมเหล่านี้ โดยสมาชิกรัฐสภาอังกฤษบอกว่าต้องการรับฟังเรื่องราวจากผู้ต้องขังเหล่านี้โดยตรง
เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 คริสปิน บลันต์ ส.ส. จากสหราชอาณาจักรผู้เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการคุมขัง ส่งจดหมายถึงเอกอัครราชทูตซาอุฯ ประจำสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้เจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาววาฟ บิน อิบดุลอาซิซ ให้ความร่วมมือกับพวกเขาในการจัดให้พวกเขาเข้าเยี่ยมนักโทษในเรือนจำดาห์บันใกล้กับเมืองญิดดะฮ์ โดยที่นักโทษเหล่านี้เป็นกลุ่มนักสิทธิสตรีผู้เคยเรียกร้องสิทธิในการขับรถสำหรับผู้หญิงก่อนหน้านี้
บลันต์ระบุว่าพวกเขาต้องการเข้าพบพูดคุยกับนักกิจกรรมเหล่าเพื่อให้ได้รับข้อมูลคำบอกเล่าโดยตรงจากนักกิจกรรมเหล่านี้ นอกจากนี้ยังอยากเข้าพบและสอบถามกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและทำงานเกี่ยวกับการคุมขังพวกเธอด้วย
ก่อนหน้านี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มอย่างแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลและฮิวแมนไรท์วอทช์เคยกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิฯ ต่อนักกิจกรรมหญิงเพื่อสิทธิสตรี 8 คน ในซาอุฯ นักกิจกรรมเหล่านี้เคยประท้วงเรียกร้องให้ผู้หญิงมีสิทธิขับรถในซาอุฯ โดยที่หลังจากการคุมขังก็มีการทารุณกรรมด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อตและการเฆี่ยนตี นอกจากนี้ยังระบุว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศพวกเธอ มีการข่มขู่ว่าจะข่มขืนพวกเธอ และกีดกันไม่ให้ติดต่อทนายความ
ในจดหมายของบลันต์ระบุอีกว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของซาอุฯ ที่กำลังพยายามสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปในทางก้าวหน้าขึ้นแล้ว ส่วนทางการซาอุฯ เองเคยปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้กระทำการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างที่ถูกกล่าวหา โดยกระทรวงสื่อของซาอุฯ แถลงไว้เมื่อเดือน พ.ย. 2561 ว่าองค์กรสิทธิมนุษยชนกล่าวหาพวกเขาโดยอ้างแหล่งที่มาและคำบอกเล่าที่ "ไม่ระบุนาม"
รายงานของอัลจาซีราแสดงภาพส่วนหนึ่งของนักกิจกรรมสตรีซาอุดิอาระเบียที่ถูกควบคุมตัว (ที่มา: Aljazeera)
อย่างไรก็ตามในรายงานข่าวล่าสุดของอัลจาซีรามีการระบุชื่อของกลุ่มนักกิจกรรมที่ถูกจับกุมแล้ว
ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. 2561 จนถึงตอนนี้รัฐบาลซาอุฯ ต้องเผชิญกับแรงโต้ตอบจากนานาชาติในเรื่องการสังหารนักข่าวจามาล คาชอกกี อย่างโหดเหี้ยมในสถานกงสุลซาอุฯ ที่ประเทศตุรกี บลันต์ระบุว่ากรณีคาชอกกีถืเป็นหายนะอย่างสมบูรณ์แบบของซาอุฯ และเป็นไปได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารคาชอกกีอาจจะเป็นพวกเดียวกับที่คุมขังนักสิทธิสตรีด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการให้สิทธิแก่ผู้หญิงมากขึ้นเมื่อปีที่แล้วรวมถึงให้สิทธิผู้หญิงขับรถได้ก็ตาม
ในจดหมายของนักการเมืองอังกฤษระบุอีกว่าพวกเขาต้องการสอบปากคำกลุ่มผู้ชายผู้สนับสนุนนักสิทธิสตรีเหล่านี้ด้วย และขอให้สถานทูตซาอุฯ ตอบกลับภายในวันที่ 9 ม.ค. นี้เนื่องด้วยความที่เป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเสนอว่าถ้าพวกเขาให้ความร่วมมือก็อาจจะทำให้ซาอุฯ ได้รับความเชื่อมั่นในสายตาประชาคมโลกกลับมาได้ในฐานะที่การปฏิรูปเพื่อความก้าวหน้าทางสังคมและการปกป้องสิทธิของนักกิจกรรม "มีความน่าเชื่อถือและความจริงจัง"
เรียบเรียงจาก
British MPs, lawyers request visit to detained Saudi activists, Aljazeera, 02-01-2018
แสดงความคิดเห็น