Posted: 03 Jan 2019 10:42 PM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Fri, 2019-01-04 13:42


อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุขณะนี้พายุโซนร้อนปาบึกอยู่ห่างจากอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชราว 80 กิโลเมตร คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งในเวลา 15.00 - 16.30 น. ในบริเวณ อ.หัวไทร หรือ อ.ท่าศาลา หรือ อ.เมือง ของ จ.นครศรีธรรมราช - ผู้ว่านครฯ สั่งการให้อพยพประชาชนจากอำเภอท่าศาลาไป ม.วลัยลักษณ์

4 ม.ค.2562 ภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 17 เมื่อ เวลา 11.00 น. ระบุว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 125 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 8.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนังและอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันนี้ (4 ม.ค. 62) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

BBC Thai รายงานด้วยว่า ภูเวียง กล่าวว่า ขณะนี้พายุโซนร้อนปาบึกอยู่ห่างจากอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชราว 80 กิโลเมตร คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งในเวลา 15.00 - 16.30 น. ในบริเวณ อ.หัวไทร หรือ อ.ท่าศาลา หรือ อ.เมือง ของ จ.นครศรีธรรมราช





ภาพที่ศูนย์อพยพ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีฯ จนท.อพยพชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลมาที่ศาลาประชาคม บริเวณที่ว่าการอำเภอท่าศาลา

สำหรับผลกระทบนั้น ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 17 ระบุไว้ดังนี้

ในวันที่ 4 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ในวันที่ 5 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2562

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่านครฯ สั่งการให้อพยพประชาชนจากอำเภอท่าศาลาไป ม.วลัยลักษณ์

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมสั่งการสถานศึกษาหยุดเรียนการสอนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ตลอดจนได้มีการระดมสรรพกำลังและอุปกรณ์กู้ภัยเตรียมการ ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราชส่วนหน้าที่ 1 ได้รายงานจำนวนผู้อพยพในพื้นที่อำเภอท่าศาลาล่าสุดมีจำนวน 3,784 คน ทั้งนี้ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 4 โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 จัดรถรับ-ส่งผู้อพยพจากศูนย์อพยพเดิมที่ศาลาประชาคมอำเภอท่าศาลา ส่งไปยังศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์แล้ว เนื่องจากจุดรองรับเดิมสถานที่ค่อนข้างคับแคบ และไม่ปลอดภัย ซึ่งทาง รองศาสตราจารย์ ดร.ศราวุธ ปาลิโภชน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยมีความพร้อมในการรองรับผู้อพยพได้มากถึง 5,000 คนและขณะนี้ได้มีการเตรียมอาหารน้ำดื่ม เพื่อรองรับผู้อพยพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในขณะที่ผู้อพยพก็ต่างหาที่สำหรับพักผ่อน โดยสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายพอสมควร เนื่องจากภายใน ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีสถานที่กว้างขวาง ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมถึงบุคคลากรของทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ด้วย

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.